ผลเสียของการอดนอน

นอกจากอาการการหงุดหงิดง่าย มึนงง และอ่อนเพลียเพราะไม่ได้พักผ่อนแล้ว การอดนอนต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองร้ายแรงกว่าที่คิด

จากการทดลองของ ดร.โรเบิร์ด สติกโกลด์ อาจารย์ประจำภาควิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่าการอดนอนเพียงหนึ่งคืนมีผลทำให้นักศึกษาเรียนรู้และจดจำทักษะใหม่ๆ ได้ช้าลงถึงสามวันเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากหลายคนจะเคยอดหลับอดนอนเพื่อท่องหนังสือทั้งคืน แต่กลับจำอะไรไม่ได้เลยเมื่อถึงเวลาเข้าห้องสอบในตอนเช้า

การอดนอนติดต่อกัน 18 ชั่วโมงจะทำให้การตอบสนองของคุณแย่ลงประมาณ 0.25 - 0.5 วินาที และเมื่อโอกาสอำนวยสมองของคุณก็จะเริ่ม แอบงีบ เป็นเวลาตั้งแต่ 2-20 วินาทีโดยที่คุณไม่รู้ตัว ซึ่ฃช่วงเวลาดังกล่าวนั้นนานพอที่จะทำให้รถแหกโค้ง หรือทำให้คุณต้องย้อนกลับไปอ่านประโยคเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า กว่าจะเข้าใจข้อความที่อยู่ตรงหน้า

เมื่ออดนอนครบ 20 ชั่วโมง คุณจะเริ่มสัปหงกและตอบสนองแย่พอๆ กับคนที่มีแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดร้อยละ 0.08 หรือเทียบเท่าการดื่มไวน์ประมาณ 3 แก้ว ซึ่งสูงพอที่จะถูกตำรวจจับหากคุณกำลังขับรถ
การนอนของคนเราแบ่งเป็น 5 ระยะ

1. ระยะที่ 1 คือช่วง 10 นาทีแรกของการนอน เราจะรู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่น
2. ระยะที่ 2 คือช่วง 20-40 นาทีของการนอนหลับ เป็นช่วงที่เราเริ่มหลับจริง การหายใจและหัวใจจะเต้นช้าลง
3. ระยะที่ 3 และ 4 คือช่วงของการหลับลึก การหายใจและหัวใจจะเต้นช้าที่สุด เลือดจะไปเลี้ยงสมองช้าลง แต่จะไปเลี้ยงกล้ามเนื้อที่อวัยวะอื่นๆ ของร่างกายมากขึ้น สมองจึงเริ่มทำงานน้อยลง ในขณะที่ร่างกายกลับมีกำลังวังชาพร้อมที่จะเคลื่อนไหวอย่างอิสระ การละเมอ ผวา หรือปัสสาวะรดทีีนอนจึงมักจะเกิดขึ้นในการนอนระยะนี้ หากถูกปลุกให้ตื่นระหว่างการนอนระยะนี้ เราจะมีอาการงุนงง จำอะไรไม่ได้
4. ระยะที่ 5 คือช่วง 70-90 นาทีของการนอนหลับ เป็นการนอนเพื่อจัดระเบียบสมอง สมองจึงทำงานค่อนข้างเต็มที่และในบางกรณีอาจทำงานเต็มที่มากกว่าขณะเราตื่น เรามักจะฝัน การหายใจและหัวใจจะเต้นเร็วขึ้น รวมทั้งจะกลอกตาไปมาตามความฝัน นักวิทยาศาสตร์จึงเรียกการนอนระยะนี้ว่าการนอนแบบ REM ซึ่งย่อมาจาก Rapid Eye Movemment

เมื่อออกจากระยะที่ 5 แล้วการนอนของเราก็จะเข้าสู่ระยะที่ 2, 3, 4 และ 5 วนเวียนสลับกันไปเป็นวงจรเช่นนี้ และจะกลับเข้าสู่ระยะที่ 1 อีกครั้งก็ต่อเมื่อกำลังจะตื่น
เรื่อง ฐิติขวัญ เหลี่ยมศิริวัฒนา