แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Social Life แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Social Life แสดงบทความทั้งหมด
แก้กรรม ศรัทธาที่มืดบอด
สุภชาติ สุวรรณสิงห์(เอ ตาทิพย์ )
อาจารย์เอตาทิพย์ทำพิธีล้างกรรม บาทาบำบัด เกจิอาจารย์สุดยอดวิชา เป่ายันต์จักรพรรดิ์ ลงนะหน้าทอง สักยันต์จักรพรรดิ์ สักยันต์นะหน้าทอง สักยันต์ปลดหนี้ แก้กรรม แก้คุณไสย์ สะเดาะเคราะห์ ต่ออายุ ดูดวงชะตา เจิมรถ ดูฮวงจุ้ย ตั้งศาลพระพรหม พระแม่ธรณี ท้าวเวสสุวัณณ์ ท้าวกุมภัณฑ์ พระภูมิเจ้าที่ และศาลอื่น ๆ 

คุณเป็นต้อมั้ย? วันนี้ทีวีดูเล็กขอนำเสนอ การรักษาต้อด้วยฝ่าตีนนนนน คุณไม่คิดมาก่อนใช่มั้ยว่าเราจะมาถึงจุดนี้กันได้? มันมาถึงแล้วล่ะ เพียงคุณแชร์ออกไปภายใน 5 นาที คุณจะได้รับส่วนลดในการรักษาทันที ไม่เห็นผลให้ใช้ฝ่าตีนเหยียบคืน แต่ไม่คืนตังค์นะ!!! 555555
โอยย...ตายๆๆ คนเหยียบยังใส่แว่นอยู่เลย ยังเชื่อกันอีกเรอะ พี่น้อง (หมอแล็บแพนด้า)

กรูว่าสังคมแม่งกำลังป่วยหวะ ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลตรงนี้หน่อยว่า ถูกผิดอะไรไหมกับการอ้างการรักษาด้วยการเอาตีนไปเหยียบหน้า คนเชื่อแม่งคงป่วยทางสมองอย่างหนักหละ คือเมิงว่าควรปล่อยไปแบบนี้ไหม ?

นี่ถ้าพ่อแม่พี่น้องมาเจอไอ้แว่นนี้รักษาพวกเมิงจะเห็นดีเห็นงามด้วยไหม กับการอ้างการรักษาด้วยวิธีแบบนี้
(B FuckGhost >> ดูหลายๆคลิปแล้วแม่งเจ็บปวดหัวใจ จริมๆ)


เชื่ออย่างไม่มีสติปัญญา ไม่อิงเหตุผลใดๆทั้งสิ้น ไม่ใช้สติและปัญญา ในการพิจารณา ไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน เรียกว่า "อธิโมกศรัทธา" หรือ เชื่อแบบหลงงมงาย

source: https://www.facebook.com/toolmorrow, www.thairath.co.th

จะเกิดอะไรขึ้น.. ถ้าเราทำตามกันโดยไม่รู้สึกผิด
What will happen if we follow each other blindly.

ทุกวันนี้สังคมไทยมีการทำทุจริตในด้านต่างๆมากมาย เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดแก่ตัวเอง โดยไม่สนใจรอบข้าง ว่าจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด ซึ่งผลที่ได้รับก็คือประเทศของเราเอง ต่างคนต่างโกง ต่างคนต่างไม่ยอมกัน แล้วประเทศเราจะอยู่อย่างไร


เฟซบุ๊กเพจทูมอโร่ (Toolmorrow) ซึ่งเป็นผู้จัดทำคลิป ได้เผยคลิปการตั้งกล้องทดสอบพฤติกรรมโกง ของคนไทยกลุ่มหนึ่ง โดยจัดฉากหน้าร้านอาหาร ด้วยการตั้งโต๊ะติดป้ายแจกขนมฟรีคนละ 1 ชิ้น และมีหน้าม้าคอยหยิบนำให้คนข้างหลังดู เพื่อจะพิสูจน์ว่าจริงๆ แล้วคนไทยมีนิสัยโกงทุจริตอยู่ในตัวหรือไม่ หรือจริงๆ แล้วเห็นคนอื่นโกง ก็เลยทำตามบ้าง จากการทดสอบแบบที่ 1 ทีมงานได้ให้หน้าม้าทดลองหยิบคนละ 1 ชิ้น ผู้คนส่วนใหญ่ที่เดินผ่านไปมาก็ทำการหยิบกันไปคนละหนึ่งชิ้นอย่างเป็นระเบียบ

จากนั้นทีมงานทูมอโร่ ได้ให้หน้าม้า ทำการทดลองแบบที่ 2 โดยให้หน้าม้าหยิบขนมเกิน 1 ชิ้น พบว่าผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาบางส่วนได้หยิบกันคนละ 2-3 ชิ้นตามไปด้วย แต่บางส่วนก็ยังปฏิบัติตามกฏที่วางไว้คือ 1 คนต่อ 1 ชิ้น

สุดท้ายทีมงานของทูมอโร่ ได้สรุปผลการทดลองพบว่า
จากการทดสอบด้วยแบบที่ 1 มีจำนวนคนโกงอยู่ที่ร้อยละ 10
เมื่อทดลองแบบที่ 2 ด้วยการให้หน้าม้าหยิบขนมเกิน 1 ชิ้นพบว่ามีผู้ที่ทำตามเป็นจำนวนถึงร้อยละ 60

สรุปเป็นนัยสำคัญได้ว่า คนส่วนใหญ่เมื่อเห็นคนอื่นโกง ก็มีแนวโน้มที่จะโกงตามมากขึ้น พร้อมชวนชาวเน็ตร่วมเสนอไอเดียเพื่อลดพฤติกรรมการโกงตามน้ำ

ทั้งนี้ในช่วงแรกของคลิปการทดสอบ ทีมงานทูมอโร่ ได้หยิบนำประเด็นเรื่องการทำผิดกฎจราจรบนท้องถนนมาเปรียบเทียบพฤติกรรม ‘โกงตามน้ำ’ ชี้ให้เห็นว่าเมื่อมีคนหนึ่งทำผิดซึ่งหน้า คนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้ ก็มีโอกาสสูงที่จะเลียนแบบพฤติกรรมดังกล่าว

คงไม่ผิดใช่ไหม…หากความรู้สึกของผู้หญิงจะสำคัญกว่าเหตุผล และไม่ว่าใครจะตัดสินให้เราเป็นอย่างไร ความสุขของผู้หญิงก็คือการมีความสุขในสิ่งที่เราเป็น และมีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่รู้

ถึงเวลาค้นพบคุณค่าในตัวตน กับสังคมแห่งความสุขเพื่อผู้หญิง …คุณค่าของผู้หญิง สร้างได้ด้วยตัวคุณเอง
Oriental Princess Society
มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพมากมายเหลือประมาณ แถมยังพัฒนาให้เพิ่มพูนขึ้นได้แต่ศักยภาพดังกล่าวไม่ค่อยถูกนำมาใช้อย่าง เต็มที่ เพียงเพราะความเชื่อว่า “ฉันทำไม่ได้”

ความเชื่อเช่นนี้ได้กลายเป็นกำแพงขวางกั้นความฝันและจำกัดศักยภาพของเราไป โดยไม่รู้ตัว ผลก็คือ ชีวิตเราแน่นิ่งอยู่กับที่ ราวกับถูกล่ามโซ่ที่เราสร้างขึ้นเอง

มีช้างบ้านวัยฉกรรจ์เป็นจำนวนมาก ที่ถูกล่ามไว้ด้วยเชือกเส้นเล็ก ๆ เพียงเส้นเดียว หากมันเพียงแต่ดึงแรงๆ เท่านั้น ก็เป็นอิสระได้แต่เหตุใดสัตว์ร่างยักษ์นี้ถึงยอมจำนนต่อเชือกเล็กๆ เส้นนี้ คำตอบก็คือ เพราะมันถูกล่ามเช่นนี้ตั้งแต่เด็ก ตอนเด็กๆ มันไม่มีแรงพอที่จะดึงเชือกให้ขาดได้ แม้โตขึ้นมันจะมีกำลังวังชามหาศาล แต่ประสบการณ์วัยเด็กก็ยังฝังอยู่ในหัวว่า ไม่มีทางดึงเชือกให้ขาดได้ มันจึงยอมให้เชือกเส้นน้อยๆ พันธนาการต่อไป คนเป็นอันมากไม่ต่างจากช้างบ้านดังกล่าว เขามีความคิดอยากจะทำอะไรดีๆ ตั้งมากมาย แต่แล้วก็ไม่กล้าทำเพราะคิดว่าทำไม่ได้

บางคนอยากแก้นิสัยขี้โกรธ ขี้อิจฉา ชอบกลัว ช่างวิตก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ยอมทำ เพราะคิดว่าทำไปก็เท่านั้น ทำมาหลายครั้งแล้วไม่เคยสำเร็จสักที จริงอยู่ เมื่อก่อนอาจทำไม่สำเร็จ แต่ใช่ว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้จะต้องล้มเหลวอีก มีหลายคนพยายามทำแต่ก็ทำไปได้ไม่ตลอดเพราะยอมแพ้กลางทาง ด้วยคิดว่านิสัยเหล่านั้นเกิดมาพร้อมกับตัว และคงจะตายไปพร้อมกับตัว ไม่มีวันแก้ได้หรอก

ส่วนคนที่อยากสร้างสรรค์ผลงานตามที่นึกฝัน แต่ก็ได้แค่ฝันเพราะคิดว่าไม่มีสติปัญญาจะทำได้ ความคิดเช่นนี้แหละ คือเชือกที่ล่ามตัวเราเอง มันคือกำแพงที่เราสร้างขึ้นไว้ขวางกั้นตนเอง ขีดจำกัดที่เราสร้างขึ้นไว้ขวางกั้นตนเองมีหลายอย่าง แต่อย่างหนึ่งที่ต้องข้ามพ้นเป็นประการแรก ก็คือ ความกลัว ไม่กล้าลอง หรือ ทำอย่างครึ่งๆ กลางๆ เมื่อใดก็ตามที่เรากล้าทำและทำด้วยความเพียรพยายามอย่างเต็มที่จนถึงที่สุด นั่นคือชัยชนะอันงดงามแล้ว ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม
The Secret ในชีวิตและความสำเร็จของผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งชื่อบัณฑิต อึ้งรังษี เขาได้พิสูจน์ให้โลกได้เห็นถึงศักยภาพในตัวเขากับการสร้างความฝันที่ยิ่ง ใหญ่ พร้อมกับเสียงชื่นชมและการยอมรับจากนักวิจารณ์ดนตรี และสื่อมวลชนในหลายประเทศทั่วโลก และหากคุณอยากเป็นเหมือนเขา คุณต้องกล้าที่จะฝัน และลงมือทำเดี๋ยวนี้! แล้วคุณจะเป็นอีกคนหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตา และเป็นที่หนึ่งได้เช่นกัน

เพราะมี ความฝัน จึงทำให้มนุษย์สามารถทำสิ่งที่ เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้ ผู้ที่กล้าคิด กล้าฝัน และกล้าเปลี่ยนแปลงโชคชะตา ด้วยการลุกขึ้นมากำหนดเส้นทางชีวิตของตัวเอง และทำความฝันอันยิ่งใหญ่ให้เป็นจริง เพื่อร่วมแบ่งปันประสบการณ์และข้อคิดความสำเร็จระดับ World Class ภายใต้หัวข้อ ต้องเป็นที่หนึ่งให้ได้ Conduct Your Dreams

ด้วยความเชื่อในความฝันที่ยิ่งใหญ่ และศักยภาพของมนุษย์ที่ไม่มีขีดจำกัดรวมถึงใจที่มุ่งมั่นและรักในดนตรี คลาสสิก ทำให้เขาเริ่มต้นลงมือบรรเลงความฝันให้เป็นความจริง โดยเริ่มจากกล้าที่จะคิด กล้าที่จะฝัน และกล้าที่จะตั้งเป้าหมายเพื่อก้าวสู่การเป็นวาทยกรชื่อก้องโลก แม้ว่าทุกคนจะมีความฝัน แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนเดินไปไม่ถึงจุดหมายปลายทางของความฝัน นั่นเป็นเพราะพวกเขาขาดความกล้าที่จะฝัน Dare to Dream เพราะกลัวผิดหวัง เมื่อคิดถึงอุปสรรคที่รออยู่ข้างหน้า ซึ่งถือเป็นข้อแก้ตัวที่ทำให้คนหลายคนต้องล้มเลิกความฝัน

ข้อแรก คือ ความฝันที่ยิ่งใหญ่ทำให้เราตื่นเต้น เป็นแรงจูงใจที่ทำให้เราอยากจะต้องทำตามความฝันทำให้ชีวิตมีความหมาย และสนุกกับความท้าทายที่ต้องทำให้สำเร็จ

ข้อ 2 ไม่ถึงเป้าหมาย ไม่ยอมแพ้ ผมตั้งเป้าหมายมาตลอดชีวิตว่า จะเป็นวาทยกรระดับโลก แต่ถ้าทำเต็มที่แล้วไม่ได้เป็นดังที่ผมฝันเอาไว้ อย่างน้อยผมก็ยังเป็นวาทยกรอันดับหนึ่งของเมืองไทยได้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่า เราล้มเหลว แต่ถือว่าเราได้พัฒนาตัวเองจนประสบความสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง

ข้อ 3 ฝันใหญ่ทำให้เราทำสิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ความฝันที่ยิ่งใหญ่ไม่เพียงแต่จะทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการทำงาน แต่ยังทำให้เราสามารถทำความฝันที่เล็กกว่าความฝันของเราได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นการทำงานที่เรารัก ทำให้เราทำงานด้วยความสุข และยังได้ผลตอบแทนในชีวิตอีกด้วย
เมื่อคุณกล้าที่จะเริ่มต้น หนทางที่จะนำไปสู่ความฝันจะปรากฏออกมา เพื่อพาเราเ้ดินไปสู่เป้าหมาย นอกจากนี้เราต้องฝันให้ใหญ่ เพราะถ้าเราไม่ก้าวให้สูงขึ้นไป เราจะต้องตกลงมาเนื่องจากมีคนใหม่ๆ เข้ามาเป็นคู่แข่งเราตลอดเวลา เมื่อเรากล้าฝันแล้วขั้นต่อไปคือ
1. หาความฝันให้เจอ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
2. เขียนความฝันนั้นลงไป เพราะการเขียนเป็นการบอกกับจิตใต้สำนึกว่า เราจริงจังกับความฝันนี้ และต้องการทำความฝันนี้ให้เป็นจริง เคยมีการวิจัยว่า คนที่ตั้งเป้าหมายและเขียนความฝันจะสามารถทำความฝันให้เป็นจริงได้มากกว่าคน ที่ไม่ได้เขียนฝันลงไปถึง 70%
3. ฝันก่อนนอนทุกคืน ด้วยการจินตนาการถึงความฝันทุกคืนซึ่งจะเป็นพลังทำให้เป้าหมายนั้นเป็นจริง
4. หมกมุ่น ด้วยการคิดถึงความฝันอยู่ตลอดเวลา
5. เริ่มต้น เป็นการยากที่สุด แต่เมื่อเริ่มต้น และลงมือทำอย่างไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าจะเจอกับอุปสรรคมากแค่ไหนก็ตาม ในที่สุดความฝันของเราก็จะเป็นจริง

ปัญหาไม่ได้ทำให้ทุกข์ แต่ทุกข์เพราะไม่มีปัญหากับปัญหา อะไรๆ ก็ไม่สามารถที่จะทำให้เราเป็นอะไรๆ ได้ แตที่เรามักเป็นอะไรต่อมิอะไรไป เป็นเพราะเราไม่เข้าใจ แต่ถ้าเราเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว ก็จะไม่เป็นอะไรกับอะไรอีกต่อไป อะไรจะเป็นอะไร เราจะไม่เป็นอะไร

สำหรับผู้ที่มีปัญาแล้ว ก็จะไม่มีปัญหากับปัญหาอีกต่อไป ไม่มีอุปสรรคกับอุปสรรคอีกต่อไป ไม่มีเรื่องกับเรื่องอีกต่อไป ไม่มีอารมณ์กับอารมณ์อีกต่อไป ปัญหาก็ไม่ใช่ปัญหา หรือไม่เป็นปัญหาสำหรับเรา อุปสรรคก็ไม่ใช่อุปสรรค หรือไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเขา เป็นต้น
ทุกปัญหามีทางออก ไม่ใช่ออกทุกทางแล้วก็ยังมีปัญหา
ทุกปัญหามีทางแก้ ไม่ใช่แก้ทุกทางแล้วก็ยังมีปัญหา
ทุกปัญหามีคำตอบ ไม่ใช่ตอบทุกคำแล้วก็ยังมีปัญหา
เปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นอุปกรณ์ ไม่ใช่ทุกอุปกรณ์คืออุปสรรค
แปรวิกฤติเป็นโอกาส ไม่ใช่ทุกโอกาสกลายเป็นวิกฤติ
ทุกข์ไม่ได้มีไว้เพื่อให้เป็นปัญหา
และปัญหาก็ไม่ได้มีึไว้เพื่อให้เป็นทุกข์

แล้วทุกข์มีไว้เพื่อให้ทำอย่างไร และปัญหามีไว้เพื่อประโยชน์อันใด ทุกข์ก็มีไว้ให้เห็น ไม่ได้มีไว้ให้เป็น มีไว้ให้รู้ – รู้ว่ามีทุกข์ เราไม่ได้มีหน้าที่มาเป็นทุกข์ แต่มีหน้าที่มารู้ทุกข์ มาเห็นว่านี่คือทุกข์
ปัญหาก็มีไว้เพื่อลับปัญญา หรือเพื่อให้ปัญญาเกิด ปัญญาจะเกิดจากปัญหานี่แหละ เราก็ได้ปัญญาจากปัญหานี่แหละ ดังนั้นขอบคุณเจ้าปัญหาทั้งหลาย ที่ทำให้เราได้สติปัญญา ขอบคุณบรรดาความทุกข์ทั้งหลาย ที่ทำให้เราไม่สามารถเป็นทุกข์ได้ ขอบคุณบรรดาความผิดพลาดบกพร่องทั้งหลาย ที่ทำให้เราได้พบสิ่งที่ถูกต้อง ขอบคุณทุกสรรพสิ่งรอบๆ ตัวเรา รวมทั้งตัวเรา ที่เป็นครูทำให้เราเข้าใจอะไรๆ ที่ถูกต้อง ขอบคุณตัวเราที่ทำให้เราเข้าใจว่าตัวเราไม่ใช่ตัวเรา
พ.นวลจันทร์
เมื่อเลิกจ้างที่ถูกต้องตามกฏหมาย นายจ้างต้องบอกการเลิกจ้างกับลูกจ้างล่วงหน้าก่อนถึงกำหนดวันจ่ายเงินค่า จ้าง หรือในวันจ่ายเงินค่าจ้าง เพื่อให้ผลการเลิกจ้างเกิดขึ้นในวันจ่ายเงินค่าจ้างคราวถัดไป และนายจ้างมีหน้าที่ระบุเหตุผลในการเลิกจ้างด้วย

หากนายจ้้างไม่บอกเหตุผลหรือเหตุของความผิดของลูกจ้างที่ตนไม่จ่ายค่าชด เชยให้ลูกจ้าง แม้ลูกจ้างจะทำความผิดถึงขั้นไม่อาจได้รับเงินค่าชดเชยจากนายจ้าง แต่การที่นายจ้างไม่ระบุเหตุผลดังกล่าว นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้าง และลูกจ้างย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกร้องค่าสินจ้างจากนายจ้างได้อีกด้วย
การจ่ายค่าชดเชยที่นายจ้างต้องจ่ายให้กับ ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด (หรือนายจ้างไม่ระบุเหตุผลการเลิกจ้าง) ต้องคำนวณจากค่าจ้างอัตราสุดท้ายหรือค่าจ้างการทำงานเดือนสุดท้ายของลูกจ้าง และดูอายุการทำงานประกอบกัน เช่น ถ้าลูกจ้างทำงานครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 1 ปี นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับลูกจ้างเท่ากับ 30 วัน หรือ 1 เดือน ถ้าลูกจ้างทำงานครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับลูกจ้างเท่ากับ 90 วันหรือ 3 เดือน

หรือถ้าลูกจ้างทำงานครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 6 ปี นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับลูกจ้างเท่ากับ 180 วันหรือ 6 เดือน ถ้าลูกจ้างทำงานครบ 6 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับลูกจ้างเท่ากับ 240 วันหรือ 8 เดือน และถ้าลูกจ้างทำงานครบ 10 ปีขึ้นไปนายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับลูกจ้างเท่ากับ 300 วันหรือ 10 เดือน

แต่มีกรณ๊ที่นายจ้างสามารถไล่ลูกจ้างออกจากงานได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า และทั้งไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้ คือ
  1. ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดอาญา โดยเจตนาต่อนายจ้างเช่น การนำทรัพย์นายจ้างไปใช้-ขายโดยปราศจากสิทธิโดยชอบ เป็นการกระทำที่มุ่งหาประโยชน์โดยมิชอบ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่อยู่ในตัว
  2. จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย เช่น ลูกจ้างทำเอกสารแจกให้เพื่อนร่วมงานอ่าน ทำให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง ถือว่าเป็นการจงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
  3. ประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
  4. ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน หรือระเบียบหรือคำสั่ง ของนายจ้างอันชอบด้วยกฏหมายและเป็นธรรม และนายจ้างได้ตักเตือนได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว เว้นแต่กรณ๊ที่ร้ายแรงนายจ้างไม่จำเป็นต้องตักเตือน หนังสือเตือนมีผลบังคับได้ไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันที่ลูกจ้างกระทำผิด
    แต่ถ้าเป็นกรณีกระทำความผิดไม่ร้ายแรง นายจ้างต้องตักเตือนลูกจ้างเป็นหนังสือก่อนหนึ่งครั้ง เมื่อลูกจ้างกระทำความผิดแบบเดิมซ้ำอีกครั้งภายใน 1 ปีนับจากการกระทำความผิดครั้งแรก นายจ้างจึงจะเลิกจ้างลูกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
  5. ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 3 วันทำงานติดต่อกัน ไม่ว่าจะมีวันหยุดคั่นหรือไม่ก็ตาม โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
  6. ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุด เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ซึ่งการกระทำความผิดอาญาต้องให้ศาลมีคำพิพากษาจำคุกในขณะที่เป็นลูกจ้างหรือ ก่อนเป็นลูกจ้างก็ได้
ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการวิกฤติแรงงาน สิทธิประโยชน์คนงานเมื่อถูกเลิกจ้าง

วิธีที่ทำให้ผู้หญิงพอใจทุกครั้ง
สัมผัสด้วยความรัก ชม ปรนเปรอ ชื่นชอบ พะเน้าพะนอ นวด แก้ปัญหา เข้าใจ บรรเลงดนตรีกล่อม ยอ สนับสนุน หาเลี้ยง ปลอบโยน ยั่วเย้า ทำให้ขำ พูดให้คลายโกรธ กระตุ้น ลูบไล้ ปลอบขวัญ กอด ไม่สนใจความอ้วน โอบรัด ทำให้ตื่นเต้น ทำให้สงบ ปกป้อง โทรหา คอยท่า จูบ ซุกไซ้ ยกโทษให้ ซื้อเครื่องประดับให้ ให้ความบันเทิง หว่านเสน่ห์ ถือของให้ เชื่อฟัง ลุ่มหลง ใส่ใจ เชื่อใจ ป้องกัน ซื้อเสื้อผ้าให้ คุยอวดกับเพื่อน เทิดทูน ให้ความสำคัญ ตามใจ สวมกอด ยอมตายแทน ฝันถึง ยั่วล้อ ทำให้พอใจ กอดรัด ยอมตาม หลวใหล บูชา

วิธีทำให้ผู้ชายพอใจทุกครั้ง
เปลือยกายไปหา
วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2503 สนามมวยลุมพินีได้จัดการชกมวยชิงแชมเปี้ยนโลกรุ่นฟลายเวท ระหว่างโผน กิ่งเพชร นักชกชาวไทยผู้ท้าชิงกับ ปาสคาล เปเรช แชมเปี้ยนโลกชาวอาเจนติน่า ในวันนั้นคนไทยทั้งประเทศเฝ้าชมการถ่ายทอดทางหน้าจอโทรทัศน์อย่างใจจดใจจ่อ โผนกิ่งเพชรสู้อย่างสุดฝีมือจนครบยก ผลการตัดสินกรรมการให้ โผน กิ่งเพชรเป็นผู้ชนะคะแนน 2 ต่อ 1 ทันใดนั้น…
ประวัติ โผน กิ่งเพชร
จำนวนผู้เล่น: ไม่จำกัดจำนวนและเพศ

อุปกรณ์: ลูกช่วง (ใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่หรือเศษหญ้าแห้งมาผูกปมเป็นก้อนขนาดเหมาะสม)
เพลงประกอบ: โอ้เจ้าพวงมาลัย ควรหรือจะไปจากห้อง เจ้าลอยละล่อง เข้าในห้องไหนเอย

วิธีเล่น: แบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายละเท่าๆ กันแบ่งแดน แล้วจขับไม้สั้นไม้ยาวเพื่อเลือกฝ่ายที่จะได้เริ่มโยนลูกช่วงก่อน จากนั้นเริ่มเล่นโดยฝ่ายแรกเป็นฝ่ายโยน ลูกช่วงให้ฝ่ายตรงข้ามรับ ถ้าฝ่ายตรงข้ามรับไม่ได้ก็ต้องโยน กลับคืนมา แต่หากรับได้ก็ต้องพยายามขว้างกลับไปให้โดนตัวฝ่ายแรกคนใดก็ได้ ฝ่ายที่ถูกขว้าง ก็ต้องพยายามหลบให้พ้น หากไม่พ้น ลูกช่วงโดนตัวใครเข้า คนนั้นก็จะถูกล้อมวงด้วยผู้เล่นของทั้งสองฝ่าย แล้วช่วยกันร้องเพลง โอ้เจ้าพวงมาลัย ให้คนถูกล้อมรำวง 1 รอบ

ประโยชน์ที่ได้รับ: พัฒนาการทางร่างกาย กล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหว พัฒนาการทางสมอง ไหวพริบ และการตัดสินใจ พัฒนาการทางจิตใจ การปรับตัวเข้ากับผู้อื่น การยอมรับกติกา และรู้แพ้รู้ชนะ

สวนหิน
สวนแต่ละแห่งล้วนแฝงธรรมะไว้ในนั้น เห็นได้ชัดเจนจากสวนญี่ปุ่นที่ได้รับอิทธิพลจากสวนจีน ในศตวรรษที่ 12-14 การเข้ามาของลัทธิเซนในญี่ปุ่นทำให้เกิดสวนที่ได้รับการออกแบบให้เอื้อต่อการทำสมาธิ สวนเซนเป็นสวนที่มีองค์ประกอบน้อยมาก แสดงให้เห็นถึงแก่นแท้ของธรรมชาติ สวนมีลักษณะเป็นลานกรวดที่มีต้นไม้น้อยที่สุดเพื่อให้เห็นผิวสัมผัสของหินว่าปกคลุมด้วยตะไคร่หรือมอสส์

แนวคิดนี้ หากเปรียบเทียบกับสวนแบบจีนจะเห็นความแตกต่างกัน สวนจีนจะมีลักษณะเป็นตัวแทนสิ่งที่อยู่ในธรรมชาติ เช่น แทนภูเขา แทนน้ำตก แต่สวนญี่ปุ่นมีลักษณะแบบชี้แนะให้เห็นว่า นี่คือภูเขา ผู้ชมต้องใช้ความคิดและจินตนาการประกอบการรับรู้นั้น

การจัดสวนแบบญี่ปุ่นจะแสดงออกถึงความรักและเคารพในผืนดิน ก้อนหิน และพืชพันธุ์ ถึงแม้จะเป็นสวนเล็กๆ แต่ก็สามารถนำจินตนาการของผู้พบเห็นให้สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ สวนเซนอันเลื่องชื่อในญี่ปุ่น ได้แก่ สวนเรียวอันจิในเมืองเกียวโต ซึ่งเป็นสวนหินที่มีแนวคิดมาจากกองเรือและทะเล กลุ่มหินคือกองเรือ สังเกตุได้ว่าผู้เห็นรอยคราดนี้จะนึกถึงน้ำ โดยที่สวนไม่มีการใช้น้ำตกแต่งเลยแม้สักหยดเดียว

การนั่งสงบนิ่ง ชื่นชมความงามของสวน ทำให้เราได้ค้นพบความจริงมากมายจากธรรมชาติ จากฤดูกาลที่แปรเปลี่ยนไป จากสิ่งมีชีวิตที่อิงอาศัยซึ่งกันและกัน เมื่อใจมีโอกาสได้พบความสงบเย็นก็จะน้อมนำให้เราเข้าถึงความเป็นจริงของชีวิตได้
เสาวลักษณ์ ศรีสุวรรณ

ทุกข์ใจความทุกข์...คือระบบเตือนภัยและประหยัดพลังงาน

ทำไมเวลาคนเรามีความทุกข์ กดดัน ซึมเศร้า จึงชอบขังตัวเองอยู่ในห้อง ไม่อยากพูดจากับใคร ไม่อยากเจอเพื่อน หรือบางทีเวลาเราทุกข์มากๆ จะรู้สึกเหมือนพลังงานหดหาย ลุกจากเตีตงไม่ไหวเหมือนเลือดมันหดตัว ทำอะไรไม่ถูก จับต้นชนปลายไม่ได้

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมสมองจึงสร้างภาวะนี้ให้เกิดกับร่างกายเรา ก่อนอื่นต้องขอชมเชยก่อนว่า สมองของเราฉลาดมากเพราะนี่คือวิธีที่สมองจะพยายามจะบอกเราว่า เจ้านายครับ จงหยุดทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้านายทำอยู่ตอนนี้ มันไม่ใช่โปรเจ็คท์ที่ดีหรอกหยุดสักพักแล้วค่อยหาอะไรที่ดีกว่านี้ทำดูดีกว่า

ยกตัวอย่างเช่น เวลาอกหัก เรามักจะเสียใจ เศร้าซึม ร้องไห้ทำอะไรไม่ถูก ไม่อยากพบหน้าใคร รู้สึกเหมือนชีวิตหมดหวัง หรือถ้าเราทำธุรกิจแล้วขาดทุนต่อเนื่อง จนในที่สุดถูกฟ้องล้มละลายเราอาจรู้สึกผิดหวัง อับอาย ท้อแท้ ไม่อยากตอบคำถามใคร ไม่อยากพูดกับใคร อยากเก็บตัวอยู่คนเดียว ทั้งหมดนี้เป็นวิธีที่สมอง "ตัดระบบจ่ายพลังงานสำรอง" ที่ส่งมาให้เรา เพื่อบอกเรากลายๆ ว่า สิ่งที่เราทำอยู่มันไม่ได้ผลดี จงไปหาอะไรที่ดีกว่านี้ทำจะดีกว่า เช่น แฟนคนนี้คบแล้วทุกข์เหลือเกิน อาจไม่ใช่คู่ชีวิตที่ดีก็ได้ หรือธุรกิจนี้เราทำแล้วพัง ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วหางานอื่นมาทำดีกว่าไหม

หากใครใช้ ความทุกข์เป็น เขาก็มักจะอยู่นิ่งๆ กับตัวเองอยุดยั้งโปรเจ็คท์ต่างๆ ชั่วคราว เพื่อให้สมองและร่างกายมีเวลาได้หยุดพัก เพื่อตรึกตรองในสิ่งที่ตัวเองได้ทำไป และเมื่อพลังงานค่อยๆ เริ่มถูกจ่ายกลับมาแล้ว คนส่วนใหญ่พบว่าเขามีความคิดเห็นเกี่ยวกับชีวิตและปัญหาของเขาที่ลึกซึ้งและรอบด้านมากขึ้น เรียกว่ามีเวลา ตกตะกอน ทางความคิดและกลับเข้ามาสู่สังคมอย่างพร้อมมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ถ้าเราเข้าใจจุดนี้การเป็นนายของสมองเป็นเรื่องไม่ยากเกินความสามารถเลย

วนิสา เรช
ความสำคัญ เครือข่ายสังคมออนไลน์ ปัจจุบันเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญใน การดำเนินชีวิตของคนรุ่นใหม่ โดยเป็นแหล่งรวมกลุ่มกันของผู้คนในลักษณะเครือข่าย หรือชุมชนเสมือน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ทางสังคมในกลุ่มคนที่เป็นเพื่อน หรือกลุ่มคนที่มีความสนใจในสิ่งต่างๆร่วมกัน หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เครือข่ายสังคมออนไลน์มักถูกใช้เป็นแหล่งพบปะติดต่อสื่อสารระหว่างเพื่อนๆ หรือคนรู้จัก หรือแม้แต่ใช้เป็นพื้นที่สาธารณะในการแบ่งปันข้อมูลต่างๆให้กับผู้คนที่อยู่ ในชุมชน โดยผู้คนในชุมชนสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งเพื่อการศึกษาธุรกิจ และความบันเทิงร่วมกันได้

จากลักษณะความสัมพันธ์เชิงสังคมดังกล่าวข้างต้น ทำให้ธุรกิจต่างๆในปัจจุบันหันมาใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นอีกช่องทาง หนึ่งในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาวกับลูกค้า โดยสามารถใช้เป็นช่องทางสื่อสารที่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าแบบสองทาง เพื่อรับฟังความคิดเห็นและสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า รวมไปถึงการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตัวสินค้าและบริการได้ในวงกว้าง นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างแคมเปญทางการตลาดที่สามารถเข้าถึง ลูกค้าเป้าหมายได้ตามต้องการ โดยมีค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่ไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับต้นทุนในการทำการตลาดผ่านทางสื่อแบบดั้งเดิม

จากปัจจัยต่างๆดังกล่าวข้างต้นของเครือข่ายสังคมออนไลน์ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นช่องทางทางการตลาด และการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เหมาะสมสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจขนาด กลาง และขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี (SMEs) ซึ่งมีข้อจำกัดด้านเงินทุน แต่มีความต้องการช่องทางทางการตลาดที่มีความยืดหยุ่นและสามารถเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง  

รูปแบบการทำการตลาดผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ จากจุดเด่นของเครือข่ายสังคมออนไลน์ดังที่กล่าวมา ส่งผลให้มีการประยุกต์ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ เพื่อเป็นช่องทางในการทำการตลาดอย่างกว้างขวาง โดยมีรูปแบบที่หลากหลายและพัฒนาการที่ต่อเนื่อง

โดยในปัจจุบันรูปแบบหลักในการทำการตลาดผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์มีดังนี้
  • ใช้เป็นช่องทางสื่อสารและให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ จาก พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่เมื่อชอบในแบรนด์ใดแล้วก็มักจะเป็นสมาชิกของ เครือข่ายสังคมออนไลน์ของแบรนด์นั้น และคอยติดตามข่าวสารต่างๆของแบรนด์ผ่านทางช่องทางดังกล่าว จึงทำให้ผู้ประกอบการในปัจจุบันหันมาสื่อสารถึงสินค้าหรือบริการต่างๆผ่าน ช่องทางดังกล่าวมากขึ้น โดยถ้าผู้บริโภคชอบหรือสนใจในสินค้าหรือบริการ ก็จะเกิดการบอกต่อในสังคมออนไลน์ของตน ซึ่งจะเป็นไปในลักษณะเพื่อนบอกเพื่อน จึงทำให้การสื่อสารเกิดประสิทธิผลได้ง่ายกว่าการสื่อสารหรือประชาสัมพันธ์ โดยตรง
  • ใช้เป็นช่องทางในการสอบถามความคิดเห็น ด้วยลักษณะของเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เป็นพื้นที่ที่สมาชิกสามารถโพสต์ข้อ ความ รูปภาพ หรือวีดีโอเพื่อให้เพื่อนๆมาแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกัน ทำให้มีผู้ประกอบการหันมาใช้ช่องทางดังกล่าวในการสำรวจตลาด และสอบถามหรือรวบรวมความคิดเห็นของผู้บริโภคเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ เพื่อนำมาปรับปรุงสินค้าหรือบริการให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่ง ขึ้น
  • ใช้เป็นช่องทางการจัดกิจกรรมทางการตลาด จากฐานสมาชิกที่กว้างขวางของเครือข่ายสังคมออนไลน์ และลักษณะของสมาชิกที่อยู่ในรูปแบบชุมชนที่มีภูมิหลังหรือความสนใจในลักษณะ เดียวกัน ทำให้การจัดกิจกรรมทางการตลาดต่างๆนั้น สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้โดยตรง เช่น การทำกิจกรรมส่งผ่านข้อความเกี่ยวกับข้อดีของสินค้าหรือบริการที่ออกใหม่ให้ แก่เพื่อนๆในเครือข่ายสังคมออนไลน์ของตน โดยผู้ที่สามารถบอกกล่าวถึงข้อดีและส่งผ่านข้อความดังกล่าวได้มากที่สุด จะได้รับคูปองส่วนลดสำหรับสินค้าหรือบริการนั้นๆ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวนอกจากจะเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการที่ออก ใหม่แล้ว แต่ยังเป็นวิธีการโฆษณาสินค้าหรือบริการนั้นๆที่มีประสิทธิผลด้วย เนื่องจาก ผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความเชื่อถือในโฆษณาเกี่ยวกับข้อดีของสินค้าหรือ บริการที่มาจากผู้ประกอบการโดยตรงนั้นน้อยลง ต่างจากการบอกกล่าวโดยตรงจากผู้คนในชุมชนออนไลน์โดยตรง ซึ่งมีอิทธิพลต่อความสนใจในสินค้าหรือบริการของผู้บริโภคมากกว่า
การคิดเป็นพลังสร้างสรรค์ที่ดีต่อตัวเด็กเอง และต่อคนรอบข้าง
  1. การชวนลูกคุย พยายามสังเกตุว่าลูกใส่ใจกับอะไร สิ่งใดเพื่อคอยช่วยสนับสนุนหรือให้ลูกได้เรียนรู้
  2. ชวนลูกอ่านหนังสือ หมั่นตั้งคำถามเปิดโอกาสดีๆ ให้ลูกแสดงความคิดของตัวเอง
  3. ชวนลูกทำกิจกรรมภายในบ้าน เก็บกวาด เช็ดถู ทำความสะอาดบ้าน พยายามให้ลูกคิดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จเมื่อลูกทำได้ดีคอยชื่นชม และชมเชย
  4. ลองตั้งโจทย์ง่ายๆ ตรวจดูความคิดกับลูกด้วยสถานการณ์บางเรื่อง การให้ลูกรู้ด้วยว่า อุปสรรค ปัญหา ความผิดหวังเป็นเรื่องที่เราทุกคนพบเจอได้
  5. ชวนลูกดูข่าว สารคดี นำมาเป็นประเด็นพูดคุย สอนให้ลูกรู้และเข้าใจว่าในประเด็นเรื่องเดียวกัน ความคิดของแต่ละคนอาจรู้สึกและคิดได้หลายมุมมอง

source: www.voicetv.co.th
จากสถิติของสำนักงานสถิติห่างชาติ ในปี 2550 พบว่าคนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ดื่มสุรา หรือของมึนเมาเกือบ 15 ล้านคน และจำนวนผู้ดื่มจะเพิ่มมากขึ้น ในช่วงเทศกาลปีใหม่ และเทศกาลสงกรานต์ เราจะช่วยกันลดการสูญเสียทางสังคม อันเนื่องมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อย่างไร

คุณเอาเหล้าไปให้เขาจะเป็นการแช่งหรือเปล่า จากการวิจัย สสส คนส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการเหล้า มีเพียงเล็กน้อยที่ต้องการเหล้า ฉะนั้นคุณคิดว่าให้เหล้าแล้วดี เป็นการคิดที่ผิด ของขวัญ คำว่าขวัญเป็นตัวแทนของสติ การที่เราบอกว่าเสียขวัญ ก็เสียสติ ต้องไปทำพิธีเรียกขวัญคือการเรียกสติกลับมา แต่น้ำเมามันทำลายสติ หากคนรับของขวัญเราดื่มแล้วไปเกิดอุบัติเหตุแล้วพิการหรือตายไป คนให้จะรู้สึกอย่างไร?

การรณรงค์ของ สสส เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่ทำให้ ประชาชนได้ตระหนักว่าแอลกอฮอล์สร้างปัญหาให้กับสังคมอย่างมาก และประชาชนต้องมีส่วนร่วมจึงจะสำเร็จ ถ้าปล่อยให้ราชการทำอย่างเดียว ปล่อยให้ตำรวจทำอย่างเดียวจะไม่สำเร็จ ความสูญเสีย ความเสียหายที่เกิดขึ้น หรือว่าหายนะที่เกิดขึ้นจากเรื่องของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นมหาศาลทีเดียว สำหรับประเทศไทย เราจะปล่อยให้ความหายนะนี้เกิดขึ้นกับประเทศไทยไปอีกยาวนานแค่ไหน?

ฉะนั้นภาคประชาชนก็เป็นภาคหลักเหมือนกัน ในการที่จะร่วมกันรณรงค์ในการดื่มแอลกอฮอล์ในที่ที่ห้ามดื่ม
ใครๆ ก็รู้ให้เหล้าเท่ากับแช่ง ชวนกินเหล้า = แช่งเลิกเหล้า โทร. 1413
ไหว้พระธาตุ ๔ เมือง รุ่งเรืองตลอดชีวิต ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์

ดินแดนแห่งอู่อารยธรรม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนา ไหว้พระธาตุอีสาน 4 เมือง รุ่งเรืองตลอดชีวิต พระธาตุทั้ง 4 แห่งมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน และเป็นที่สักการะ เคารพ ศรัทธาของพี่น้อง ประชาชน และการไหว้พระธาตุ 4 เมือง จะเป็นการเสริมสิริมงคล เป็นการดำรงไว้ซึ่งพุทธศาสนา นอกจากนี้แล้วยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัดด้วย

การไหว้พระธาตุมีความมุ่งหมายหลายประการ เป็นการทำบุญ ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะพระบรมสารีริกธาตุ และขอพร ทำให้เรามีความสบายใจ สิ่งต่างๆ ที่ได้บอกไปยังพระพุทธองค์เพื่อให้มีพุทธานุภาพให้เราได้มีความสุข ความสบายเป็นมงคลกับชีวิต

คู่มือ ไหว้พระธาตุ ๔ เมือง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานขอนแก่น
(043) 244 498-9)
Call Center 1672

ประเทศไทยยังไม่พร้อมที่จะมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
Against Nuclear Power

ผู้ว่าการ กฟผ. ได้กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในส่วนของ กฟผ. ว่าขณะนี้ได้เตรียมพร้อมด้านบุคลากร โดยได้รับความร่วมมือจากภาควิชานิวเคลียร์เทคโนโลยี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการจัดอบรมให้ความรู้พื้นฐานพลังงานนิวเคลียร์ ให้ผู้ปฏิบัติงาน กฟผ. เพื่อเตรียมความพร้อมในการส่งไปเรียนในหลักสูตรก้าวหน้าในประเทศที่พัฒนาโรง ไฟฟ้านิวเคลียร์ต่อไป ทั้งนี้ กฟผ. ได้พิจารณาแล้วว่าการเตรียมความพร้อมทุกด้าน เพื่อรองรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นับได้ว่าเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากปัจจุบันนี้ปริมาณสำรองน้ำมันในโลกมีเหลือใช้ได้อีกประมาณ 40 ปี ส่วนก๊าซธรรมชาติที่ประเทศไทยใช้มากถึง ร้อยละ 70 แหล่งก๊าซในประเทศก็จะหมดไปในระยะเวลาอีกประมาณ 20 ปีข้างหน้า

ดังนั้นอนาคตของเชื้อเพลิงที่พึ่งพาได้ นอกเหนือจากการนำเข้าถ่านหินซึ่งจะมีแหล่งสำรองใช้ไปได้อีก 200 ปี พลังงานนิวเคลียร์จึงเป็นพลังงานทางเลือกอีกทางหนึ่งของประเทศไทย โดยต้องมีการศึกษาและติดตามเทคโนโลยีเพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในอนาคตเช่นกัน

เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่แก้กันไม่ตกสักที ไม่ว่าจะหยิบยกมาคุยเมื่อใดก็ต้องเป็น "เรื่อง" แทบทุกครั้งไป โดยเฉพาะกับ "โรงไฟฟ้านิวเคลียร์" ที่ประเทศไทยยังไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่ทางกระทรวงพลังงานได้ออกมาบอกว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ เพราะหากวันนี้ยังไม่ทำก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เริ่ม และยังเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศที่เพิ่ม ขึ้นทุกวันด้วย

ทั้งนี้เดิมปี 19 รัฐบาลได้อนุมัติให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาด 600 เมกะวัตต์ ที่อ่าวไผ่ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี แต่ได้มีการคัดค้านจากประชาชน ทำให้รัฐบาลตัดสินใจล้มเลิกโครงการไปในที่สุด จนเมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ราคาน้ำมันทุบสถิติทำราคาน้ำมันพุ่งไปอยู่ที่ระดับ 147 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เกินความคาดหมายทั้งหลายทั้งปวงไปอย่างแทบไม่น่าเชื่อ
แต่มองว่าโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เป็นเทคโนโลยีด้านพลังงานที่หล้าหลัง มีการลงทุนที่สูงมาก และที่สำคัญก็คือส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ดังจะเห็นได้จากเมื่อ ปีพ.ศ.2529 เกิดอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์รั่วที่เชอร์โนบิล ประเทศรัสเซีย แล้วทำให้สารกัมมันตภาพรังสีแผ่กระจายออกไปเป็นบริเวณกว้างทั่วทวีปยุโรป และยังส่งผลกระทบครอบคลุมไปจนถึงบางส่วนของทวีปอเมริกาเหนือ จากรายงาน ของคณะนักวิทยาศาสตร์จากสหประชาชาติ (The Chernobyl Forum) รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตโดยตรงจากอุบัติเหตุครั้งนั้น จำนวน 42 คน และประมาณอย่างหยาบๆ ว่า น่าจะมีผู้เสียชีวิตด้วยมะเร็งถึง 9,000 คน มีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครกู้ภัยถึง 600,000 คนที่ได้รับรังสีอย่างรุนแรง ระหว่างปี 2529-2532 ที่ต้องชำระล้างรังสีที่ปนเปื้อน ตัวเลขจากหน่วยงานรัฐใน 3 ประเทศระบุว่าเสียชีวิตแล้ว 25,000 คน (แต่สมาคมเพื่อนักกู้ภัยระบุว่าตัวเลขจริงสูงกว่านั้น) ปี 2549 (ครบรอบ 20 ปี) กลุ่มวิทยาศาสตร์อังกฤษระบุว่า ผู้เสียชีวิตด้วยมะเร็งจากกัมมันตภาพรังสีของเชอร์โนบิลอาจสูงถึง 66,000 คน ที่มา : บางส่วน เว็บไซต์ไทยเอ็นจีโอ
ประเทศไทยยังไม่พร้อมที่จะมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
เรายังขาดความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนัก จิตสำนึกต่อความหายนะ แม้ว่าภาครัฐจะมีอุปกรณ์ในการป้องกัน แต่เมื่อเกิดเหตุกาณ์ไม่คาดฝัน อุปกรณ์ในการป้องกันเก็บอยู่ในห้อง ไม่นำมาใช้ ปัญหาขยะที่ปนเปื้อนสารกัมมันภาพรังสีจากโรงงาน และความเสี่ยงของการระเบิด และความเสียหายอย่างที่เกิดขึ้นกับโรงงานเชอร์โนบิล

เดิมทีแล้วพลังงานนิวเคลียร์ไม่ได้จะนำมาผลิตกระแสไฟฟ้า แต่ใช้ทำระเบิด และเมื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากสิ่งที่ควรจะเป็นอันตรายขนาดนั้น มันไม่ปลอดภัยแน่ เราต้องใชัพลังงานทดแทนกลับมาใช้ใหม่ อาทิ พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ พลังงานความร้อนใต้พิภพ พลังงานชีวภาพ เป็นต้น

คงไม่ลืมกรณี เรื่องราวที่ซาเล้งขายเหล็กเป็นเหยื่อสารกัมมันตภาพรังสี และพนักงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของภาครัฐเองก็ดียังถูกสารปนเปื้อนสารกัมมันตภาพ(ชุดป้องกันสารกัมมันตภาพรังสี ซื้อมาแล้วเก็บไว้ในห้องไม่นำมาใช้ ?) และระบบกฎหมายหมายไทยยังล้าหลังมาก ในการป้องกันและตรวจสอบ หรือแม้กระทั่ง การเตรียมวิธีการไว้รองรับกับปัญหาในด้านสารพิษต่างๆ หรือสารกัมมันตภาพรังสี พลังงานใหม่ที่เทคโนโลยีปัจจุบันก้าวหน้าไปถึง รัฐยังกระบวนการที่ชัดเจนและรัดกุม ที่สำคัญขาดวิสัยทัศน์ในการดูแลตรวจสอบ ในด้านที่กลับกันหากมีความต้องการใช้ประโยชน์ กลับพูดถึงแต่ด้านดี ที่จะนำมาใช้โดยไม่กล่าวถึงด้านที่ส่งผลเลวร้าย ประเทศไทยยังไม่พร้อมจะมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

เรามีบทเรียนจากสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะคอร์รัปชั่น กับความมักง่ายด้านความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง การสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะปลอดภัยจริงหรือ มันคุ้มกับการเดิมพันด้วยชีวิต เผ่าพันธุ์ชาติไทย ความผิดปกติของโครโมโซมถ่ายทอดไปยังลูกหลานจากผลของกัมมันตภาพรังสี

สถานการณ์โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ญี่ปุ่นระเบิด
การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นสิ่งที่น่าจะเป็นตัวอย่างได้อย่างดีสำหรับการเตรียมพร้อมของหลายๆประเทศ แน่นอนว่าความกังวลในเรื่องความปลอดภัยหลังเกิดเหตุในญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดในญี่ปุ่น การจะกลับไปมีมุมมองต่อเรื่องสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ในประเทศไทยดังกล่าวอย่างเคยนั้นคงจะเป็นไปไม่ได้แล้ว

ประเทศไทยล้มเหลวในการประเมินขอบเขตของภัยพิบัติขอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนและประเมินการณ์ความจำเป็นที่จะต้องมีพลังงานปรมาณูเสียใหม่ ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นยากแก่การประมินความเสียหาย ทั้งการอพยพผู้คน ประชาชนบริเวณโดยรอบให้ห่างจากสารกัมมันตรังสี 20 กิโลเมตร ความเสียหายต่อเศรษฐกิจที่ต้องหยุดชะงัก ผลที่ตามมาจากกระจายของสารกัมมันตรังสีที่ไปกับสายลม ที่จะกระทบต่อคน สัตว์และพืชอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
 รัฐบาลของเยอรมันออกมาประกาศแล้วว่ามีแผนจะปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งห­มด www.greenpeace.org
วัยสูงอายุ วัยแห่งคุณค่าที่ต้องการดูแลที่มากขึ้น

วัยสูงอายุเป็นวัยที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เช่น สายตา ความยืดหยุ่นของหลอดเลือดที่สูญเสียไปซึ่งนำมาสู่ปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวาน มะเร็ง ฯลฯ อย่างไรก็ตามด้วยการดูแลตนเอง ปรับปรุงวิถีชีวิตให้เหมาะสมและเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีจะช่วยรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ได้

ตรวจสุขภาพประจำปี
การตรวจสุขภาพทำให้เรารู้ล่วงหน้าว่าเรามีโอกาสเกิดโรคอะไรตามมาบ้างเพื่อจะได้ปฏิบัติตัวเสียใหม่ให้ห่างไกลจากโรค ปัจจุบันตามโรงพยาบาลต่างๆ มีรูปแบบการตรวจสุขภาพมานำเสนอมากมายซึ่งมักจะแบ่งตามช่วงอายุ เช่น 20-30 ปั 30-50 ปี

รักษาร่างกายให้ดีได้ด้วยอาหารที่เหมาะสมและออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การตรวจสุขภาพประจำปีก็เหมือนกับการนำรถยนต์เข้าไปตรวจสภาพให้เรียบร้อยอยู่เสมอซึ่งจะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานให้นานขึ้น ดังนั้นแม้ว่าจะมีอายุเข้าสู่วัยสูงอายุแล้วก็ตาม คุณก็ยังสามารถมีกำลังวังชาทำอะไรต่างๆ ได้ไม่ต่างกับคนที่อายุ 30-40 ปีขอเพียงแต่รู้จักดูแลสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ วิธีหนึ่งคือการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม เนื่องจากคนในวัยนี้ร่างกายเริ่มเสื่อมถอย หลอดเลือดเรื่มมีการเปลี่ยนแปลงเสียความยืดหยุ่นไปปัญหาที่ตามมาคือ ทำให้ความดันโลหิตสูง การออกกำลังกายก็ทำได้น้อยลง การไม่รักษาน้ำหนักตัว โรคกระดูกและข้อเข่าเสื่อมจากการรับน้ำหนักตัวมากๆ วิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุควรจะเป็นการออกกำลังกายที่ไม่ต้องออกแรงกระแทก เช่นการเดินเร็วๆ หรือว่ายน้ำ

ทำใจให้สบาย ไม่ต้องเครียด
ความเครียดมีผลทำให้ภูมิต้านทานของคนเราต่ำลง เพราะขณะที่เครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนบางตัวออกมาซึ่งมีผลไปทำลายเม็ดเลือดขาวบางชนิดที่เป็นแหล่งสร้างภูมิต้านทานของร่างกายทำให้ภูมิต้านทานลดลง วิธีแก้เครียดแบบไม่ต้องพึ่งปัจจัยภายนอกคือการทำใจ เพราะสุขหรือทุกข์ล้วนแต่อยู่ที่ใจของเราเอง และหมั่นตรวจเช็คสภาวะทางอารมณ์

เลือกอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
เนื่องจากภูมิต้านทานที่อาจลดน้อยลงถอยลงไปตามวัย ดังนั้นผู้สูงอายุจึงควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น บริเวณที่มีควันพิษ สารพิษ มลพิษทางเสียง น้ำที่ไม่สะอาด ปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง

อย่าเชื่อคำกล่าวอ้างจากคนที่ไม่รู้จริง
ทุกวันนี้มีผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสมุนไพรมากมายซึ่งมีการโฆษณาชวนเชื่อว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคต่างๆ รวมทั้งมะเร็ง จึงอยากเตือนไม่ให้ผู้สูงอายุหลงเชื่อคำโฆษณษเกินจริง

หากมีอาการเจ็บป่วยเกิดขึ้น สิ่งแรกที่ควรเลือกคือวิธีการรักษาที่เป็นมาตราฐาน อย่างเช่นการแพทย์แผนปัจจุบัน
ทฤษฎี ความเพิกเฉยของผู้เห็นเหตุการณ์ (Bystander effect)

คำว่า ความเพิกเฉยของผู้เห็นเหตุการณ์ หรือที่เรียกว่า คนมุง เกิดจากความคิดที่ว่า คนอื่นอยู่กันตั้งเยอะ และทำไมฉันจะต้องเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือคนที่กำลังมีปัญหาด้วยล่ะ? หรือการปัดความรับผิดชอบให้พ้นตัวเอง เพราะคิดว่าคนอื่นก็อยู่กันตั้งมากมาย ถ้าฉันไม่ไปช่วยสักคนหนึ่งก็ยังจะมีคนอื่นอยู่อีกตั้งหลายคนที่สามารถเข้าไปช่วยได้

ปกติแล้วคนเราจะมีความรับผิดชอบต่อสังคมอยู่ เวลาอยู่คนเดียวแล้วเห็นคนที่ต้องการความช่วยเหลือเราจะวิ่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือในทันที เพราะว่ามีแต่เราอยู่คนเดียวเท่านั้น แต่พอมีหลายคนเข้าการปัดความรับผิดชอบก็จะเกิดขึ้น

วิธีป้องกันความเพิกเฉยของผู้เห็นเหตุการณ์
นักจิตวิทยาทำการวิจัยออกมาเป็นจำนวนมากว่าทำอย่างไรจึงจะได้รับความช่วยเหลือจากคนอื่นได้ง่าย วิธีพื้นฐานที่สุดคือ เมื่อเกิดอะไรขึ้นอย่าร้องว่า ใครก็ได้ช่วยด้วย แต่ควรเจาะจงขอความช่วยเหลือจากใครคนหนึ่ง
สิ่งหนึ่งที่สามารถทำร้ายใจคนได้อย่างแสนสาหัส คือความรัก

ความรักนำมาซึ่งความสุข หากเมื่อยามที่ความรักพลิกมุมกลับ ความทุกข์ก็ปรากฏตัว
ความทุกข์ที่เกิดจากความเสียดายวันเวลาดีๆ ที่เคยมีร่วมกัน
ทุกข์ที่เกิดจากความเสียใจที่คนรักมาหมดรัก
ทุกข์ที่เกิดจากความรู้สึกตัวเองด้อยค่า ที่เขาเห็นคนอื่นดีกว่า
ทุกข์ที่เกิดจากความรู้สึกว่าตัวเองโง่งมงายที่ถูกหลอกวงให้รัก

แท้จริงแล้วเขาก็แค่คนทั่วไปคนหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเราช่วงหนึ่งแล้วก็ผ่านไป เพียงแต่เราให้ความหมายเขายิ่งใหญ่ในหัวใจเรา

ถ้าเราไม่พบกับเขาวันนั้น ก็ไม่มีเรื่องราวความผูกพัน กระทั่งวันที่ทุกอย่างจบสิ้นลง แท้จริงแล้วเรื่องราวระหว่างเขากับเรา มันก็แค่เรื่องราวในชีวิตตอนหนึ่งที่มีเริ่มต้นและจบลง เพื่อให้ชีวิตมีที่ว่าง ได้เริ่มบทใหม่ เรื่องราวใหม่ๆ

หากเรายังมัวคิดถึงคนเก่า เรื่องราวเก่าๆ ไม่ปล่อยวาง เราจะก้าวไปบนเส้นทางใหม่ได้อย่างไร

คนที่สำคัญที่สุดคือคนที่รักกัน ถ้าไม่รักกัน เขาก็ไม่ใช่คนสำคัญอีกต่อไป กลายเป็นคนทั่วไปอีกเป็นล้าน ที่เราเดินสวนทางในโลกใบนี้ไม่มีความหมายมากไปกว่านั้นเลย

หันกลับมารักตัวเองบ้าง ให้กำลังใจตัวเองเรายังมีวันพรุ่งนี้ที่ยังมีความหมาย เรายังต้องพบเจอใครต่อใคร แะเรื่องราวอีกมากมายในบทต่อไปของชีวิต
วิวรรธน์ สุราช