ฉันทำไม่ได้

มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพมากมายเหลือประมาณ แถมยังพัฒนาให้เพิ่มพูนขึ้นได้แต่ศักยภาพดังกล่าวไม่ค่อยถูกนำมาใช้อย่าง เต็มที่ เพียงเพราะความเชื่อว่า “ฉันทำไม่ได้”

ความเชื่อเช่นนี้ได้กลายเป็นกำแพงขวางกั้นความฝันและจำกัดศักยภาพของเราไป โดยไม่รู้ตัว ผลก็คือ ชีวิตเราแน่นิ่งอยู่กับที่ ราวกับถูกล่ามโซ่ที่เราสร้างขึ้นเอง

มีช้างบ้านวัยฉกรรจ์เป็นจำนวนมาก ที่ถูกล่ามไว้ด้วยเชือกเส้นเล็ก ๆ เพียงเส้นเดียว หากมันเพียงแต่ดึงแรงๆ เท่านั้น ก็เป็นอิสระได้แต่เหตุใดสัตว์ร่างยักษ์นี้ถึงยอมจำนนต่อเชือกเล็กๆ เส้นนี้ คำตอบก็คือ เพราะมันถูกล่ามเช่นนี้ตั้งแต่เด็ก ตอนเด็กๆ มันไม่มีแรงพอที่จะดึงเชือกให้ขาดได้ แม้โตขึ้นมันจะมีกำลังวังชามหาศาล แต่ประสบการณ์วัยเด็กก็ยังฝังอยู่ในหัวว่า ไม่มีทางดึงเชือกให้ขาดได้ มันจึงยอมให้เชือกเส้นน้อยๆ พันธนาการต่อไป คนเป็นอันมากไม่ต่างจากช้างบ้านดังกล่าว เขามีความคิดอยากจะทำอะไรดีๆ ตั้งมากมาย แต่แล้วก็ไม่กล้าทำเพราะคิดว่าทำไม่ได้

บางคนอยากแก้นิสัยขี้โกรธ ขี้อิจฉา ชอบกลัว ช่างวิตก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ยอมทำ เพราะคิดว่าทำไปก็เท่านั้น ทำมาหลายครั้งแล้วไม่เคยสำเร็จสักที จริงอยู่ เมื่อก่อนอาจทำไม่สำเร็จ แต่ใช่ว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้จะต้องล้มเหลวอีก มีหลายคนพยายามทำแต่ก็ทำไปได้ไม่ตลอดเพราะยอมแพ้กลางทาง ด้วยคิดว่านิสัยเหล่านั้นเกิดมาพร้อมกับตัว และคงจะตายไปพร้อมกับตัว ไม่มีวันแก้ได้หรอก

ส่วนคนที่อยากสร้างสรรค์ผลงานตามที่นึกฝัน แต่ก็ได้แค่ฝันเพราะคิดว่าไม่มีสติปัญญาจะทำได้ ความคิดเช่นนี้แหละ คือเชือกที่ล่ามตัวเราเอง มันคือกำแพงที่เราสร้างขึ้นไว้ขวางกั้นตนเอง ขีดจำกัดที่เราสร้างขึ้นไว้ขวางกั้นตนเองมีหลายอย่าง แต่อย่างหนึ่งที่ต้องข้ามพ้นเป็นประการแรก ก็คือ ความกลัว ไม่กล้าลอง หรือ ทำอย่างครึ่งๆ กลางๆ เมื่อใดก็ตามที่เรากล้าทำและทำด้วยความเพียรพยายามอย่างเต็มที่จนถึงที่สุด นั่นคือชัยชนะอันงดงามแล้ว ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น