การรับรู้ที่ผิดพลาด นั่นแหละคือตัวปัญหา

หากผู้คนที่ถูกเอาผ้าพรางตาในเวลากลางวัน
พากันเห็นพ้องว่านั่นเป็นเวลากลางคืน

การรับรู้ที่ผิดพลาดของพวกเขานั่นแหละคือตัวปัญหา
การรับรู้ของเราถูกแต่งแต้มด้วยความหลงผิด ในทำนองเดียวกับผู้ป่วยโรคดีซ่านเห็นทุกอย่างเป็นสีผิดเพี้ยนไปหมด เขาเห็นหอยสังข์สีขาวเป็นสีเหลือง เพราะมีน้ำดีเข้าไปซ่านอยู่ในลูกนัยน์ตา ความยึดติดนั่นเองที่ทำให้จิตเข้าใจปรากฏการณ์อย่างมีโมหะ ทันทีที่จิตเห็นอะไร มันจะเข้าไปรับรู้อย่างยึดมั่นถือมั่น แล้วประเมินค่าว่าสิ่งนั้นน่าพอใจ ไม่น่าพอใจ หรือเป็นกลางๆ แล้วในที่สุด มันจะกระทำการไปตามการรับรู้ที่บิดเบือนนั้น ด้วยความชอบ ไม่ชอบ หรือเฉยๆ ซึ่งจะยิ่งสั่งสมกรรมให้เพิ่มพูนขึ้นไปอีก

คนเรากระทำการจากพื้นฐานของการรับรู้ที่ผิดพลาดตลอดเวลา เราไม่อาจจะแน่ใจในการรับรู้ใดๆที่เรามีอยู่ เมื่อยามที่เธอได้มองเห็นพระอาทิตย์อัสดงอย่างสวยงาม เธออาจจะมั่นใจทีเดียวว่า เธอกำลังมองเห็นพระอาทิตย์ในขณะที่มันยังอยู่ในขณะนั้น แต่นักวิทยาศาสตร์จะบอกเธอว่า ภาพของพระอาทิตย์ที่เธอได้เห็นนั้นเป็นรูปภาพของพระอาทิตย์เมื่อแปดนาทีที่ ผ่านไปต่างหาก เนื่องจากหนทางที่ยาวไกลแสงพระอาทิตย์ใช้เวลาแปดนาทีในการเดินทางมาถึงโลก ในทำนองเดียวกัน เมื่อเธอได้มองเห็นดวงดาว เธอคิดว่าดาวดวงนั้นอยู่ที่นั่น แต่ดาวดวงนั้นอาจจะหายไปเรียบร้อยนานแล้ว อาจเป็นเวลาหนึ่งพัน สองพัน หรือ หมื่นปี ก่อนหน้านี้

เราต้องระมัดระวังอย่างมากเกี่ยวกับการรับรู้ของเรา มิฉะนั้น เราจะได้รับความทุกข์ มันเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์อย่างมาก หากว่าเราจะเขียนข้อความลงบนแผ่นกระดาษด้วยข้อความว่า “เธอแน่ใจแล้วหรือ ?” แล้วแขวนมันไว้ภายในห้องของเธอ  ในคลีนิกทางการแพทย์และโรงพยาบาล พวกเขากำลังเริ่มที่จะแขวนคำเตือนลักษณะนี้ “ถึงแม้ว่าเธอจะมั่นใจ กรุณาตรวจสอบอีกครั้ง !” มันเป็นคำเตือนว่า ถ้าเชื้อโรคแม้สักตัวเดียวรอดจากการตรวจจับตั้งแต่ต้น ต่อจากนั้นมันจะเกิดความยุ่งยากอย่างมาก ยากที่จะเยียวยารักษาได้ แพทย์จะไม่คิดในความหมายเชิงจิตตสังขาร(mental formations)หรือการปรุงแต่งของจิตใจ พวกเขาคำนึงถึงความหมายของเชื่อโรคที่ตกค้าง  แต่เราก็สามารถที่จะใช้ประโยชน์จากสโลแกนที่ว่า “ถึงแม้ว่าเธอจะมั่นใจ กรุณาตรวจสอบอีกครั้ง !”ได้  เราได้ทำตัวเองให้เป็นทุกข์ เราสร้างนรกสำหรับตัวเราเอง รวมถึงคนที่เรารัก เพราะการรับรู้ของเรา “เธอแน่ใจกับการรับรู้ของเธอแล้วหรือ ?”

มีผู้คนเป็นทุกข์จาการรับรู้ที่ผิดพลาดเป็นเวลา ๑๐ ถึง ๒๐ ปี พวกเขามั่นใจว่า คนอื่นๆหลอกลวงพวกเขาหรือเกลียดชังพวกเขา ถึงแม้ว่า บุคคลอื่นได้หลอกลวงเขาเพราะความตั้งใจดีก็ตาม บุคคลผู้ตกเป็นเหยื่อของการรับรู้ที่ผิดพลาดนั้นได้ทำให้ตัวเขาเองและบุคคล ที่อยู่ล้่อมรอบตัวเขาได้รับทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก
คัดลอกบางส่วนจาก:  ท่านติช นัท ฮันห์ , ท่านดิลโก เค็นเซ ริมโปเช

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น