source: https://www.facebook.com/birdkid
**เตือนภัย** อ่านซักนิด ก่อนจะโอนเงิน ถ้าไม่อยากเงินสูญหายไป

คำถาม? ถ้าอยู่ดีๆ มีเงิน โอนเข้าบัญชี 8,700฿
คุณ!! จะทำอย่างไร

1. โอนเงินคืนเจ้าของ

2. เฉยๆไป
อ่านจบก่อนแล้วค่อยตอบก็ได้นะ

เรื่องนี้เกิดขึ้นกับผมเอง ประสบการณ์ใหม่ที่อยู่ดีๆก็เป็นผู้เสียหาย

ต้องไปดำเนินเรื่องให้วุ่นวาย เสียทั้งเวลา เสียทั้งงาน และเกือบจะเสียเงิน

เหตุเกิด เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 60

มีโทรศัพท์สายนึงโทรเข้ามา ถามชื่อ แล้วก็ถามว่าเรามีบัญชีธนาคารนี้ใช่มั้ย พอดีเค้าโอนเงิน จำนวน 8,700 บาท ผิดมาเข้าบัญชีเรา

เราก็ตรวจสอบเวลา จำนวนเงิน ซึ่งมีคนโอนมาจริง แล้วไม่ใช่ยอดโอนจากลูกค้าด้วยเพราะบัญชีนี้เป็นเงินเก็บส่วนตัว
คนในสายบอกว่า "ช่วยโอนคืนได้มั้ย" เค้าติดต่อธนาคารแล้วมันนานวุ่นวาย เลยอยากให้เราดำเนินการเอง ผมคิดในใจแล้วไปหาเบอร์กุมากจากไหนล่ะเนี่ย ในเมื่อไม่ใช่เงินของเรา เราก็ยินดีโอนคืนเค้าไปสิ

แต่...ขอหลักฐานการโอน ชื่อ-นามสกุล และเราจะโอนคืนไปยังบัญชีที่โอนมาเท่านั้นนะ และขอไปลงบันทึกประจำวันกับตำรวจไว้ก่อน

วันที่ 27 มีนาคม 60

ผญ.คนนั้น ส่ง สลิปโอนเงิน ชื่อ-นามสกุล เลขบัญชีที่โอนมา ผมตรวจสอบแล้วตรงตามที่พูดกันทุกอย่าง ปริ้นหลักฐานเพื่อไปลงบันทึกประจำวัน

ยังคุยกับพี่ตำรวจเลย โชคดีนะเนี่ยเค้าโอนมาผิด แล้วเจอผม ผมไม่เอาเงินใครอยู่แล้ว ตำรวจรีบบอกเลย "ถ้าน้องไม่โอนคืน น้องก็จะกลายเป็นคนโดนฟ้อง ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์สิน ที่ไม่ใช่ของตัวเองโดยเจตนา" (นี่ไงถ้าไม่โอนคืน กุผิดอีก มันใช่เรื่องมั้ยล่ะ)

เราก็ขอพี่เค้าถ่ายรูปบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่าเราเจตนาดีนะ จะโอนเงินคืน

สุดท้าย เพื่อความมั่นใจ ผมโทรหา CALL CENTER เล่าเรื่องให้ฟังเลย ถามหาความมั่นใจก่อนเลยว่า ทางธนาคาร มีสิทธิ์ที่จะดึงเงินจากบัญชีผมไปได้มั้ย

ทาง CALL CENTER ตอบว่า ทางธนาคารไม่มีสิทธิ์ดึงเงินฝากจากลูกค้าตรงนี้นะคะ "เพราะมีกฏหมายคุ้มครองเงินฝากอยู่ค่ะ" ต้องมีลายเซ็นต์ยินยอมจากผมก่อน ธนาคารถึงจะดึงเงินกลับไปเพื่อความถูกต้องได้ค่ะ

นี่ไง ความมั่นใจมาแล้ว ธนาคารยืนยันแบบนี้ ซึ่งเราเก็บเงินคนอื่นไว้มันไม่สบายใจหรอก

ประมาณบ่ายสอง ผมก็ โอนเงินคืน จำนวน 8,700 บาท ไป แต่เค้าก็ไม่ส่ง SMS หรือโทรหา ว่าขอบคุณหรืออะไร ก็ไม่เป็นไร เราก็เลยส่ง สลิปไป ผญ.คนนั้นก็ส่ง SMS มาว่าขอบคุณมากๆค่ะ ก็โอเคร เหมือนทุกอย่างจบลงด้วยดี!!!


**จุดเปลี่ยน**

วันที่ 3 เมษายน 60

ตอนเช้า มี SMS แจ้งสรุปยอดเงินที่ใช้ได้ เราก็ไม่ได้สังเกตุ ทำตัวปกติ จนกระทั่ง 6 โมงเย็น แม่เอาซองเอกสารมาให้ ก็เปิดอ่าน แทบช๊อค!!!

ในจดหมาย แจ้งว่า เนื่องจากมีคนโอนเงินผิด จำนวน 8,700 บาท เข้ามาที่บัญชีเรา ทางธนาคารขอดึงเงิน จำนวน 8,700 บาท หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อกลับ ภายใน 3 วัน หลังจากได้จดหมายนี้ มันพีคตรงนี้ คือ รีบดู SMS ของเมื่อเช้า อ้าววว เฮ้ยยยยยย ยอดเงินที่แจ้งมันหายไปแล้ว 8,700 บาท

ธนาคารดูดเงินกุไปแล้ว ไหนว่าให้เวลา 3 วันหลังจากได้ จดหมายไงฟร่ะ แล้วทำไมกูต้องไปติดต่ออะไรแบบนี้ด้วย กูโดนมิจฉาชีพหลอกโอนเงินป่าววะ แล้วเวลานี้จะไปธนาคารยังไงปิดหมดแล้ว เขร้เงินตั้ง 8,700 บาท กุทำอะไรผิดไป
คำถามมากมาย เกิดขึ้นในหัว

รีบโทรหา Callcenter ไหนว่าเมิงบอกธนาคาร ไม่มีสิทธื์ดูดเงินกุไปไงอ่ะ แล้วนี่มันอะไรฟร่ะ Callcenter ก็ดี๊ดี จะให้ไปติดต่อสาขาอย่างเดียวเลย อุ่นใจมากกก

คือ กุต้องทนเครียดตั้งแต่ 6 โมงเย็น ยัน 9 โมงเช้าพรุ่งนี้เลยนะ ช่างมันๆหลังจากนั้น รวบรวมสติ

รีบโทรหา ผญ.คนนั้น คือ มันรับสาย ทำเสียงเหวี่ยงมาก ผมบอกว่าธนาคารหักเงินผมไป ให้คุณโอนกลับมาจะได้มั้ย เค้าบอกว่าเค้าไปบอกธนาคารว่าได้คืนแล้ว นี่ไม่ว่าง ทำงานอยู่ จะให้โอนคืนได้ยังไง ต้องใช้ตัง แถวนี้ไม่มีตู้จะหาตู้จากไหน เดี๋ยวเลิกงาน สองทุ่ม โทรกลับ แหม่..ที่ตอนโทรมาหา ขอเงินคืน ทำน้ำเสียงอย่างดีเลย ทีกรูขอความช่วยเหลือ บ้างอ่ะนะ

จนป่านนี้วันนี้ 5 โมงเย็นแล้วยังไม่มีวี่แวว วันนั้นคิดในใจ เออ กุโดนละล่ะ เอาใหม่ๆ รีบหาหลักฐานทั้งหมด ที่เคยทำไว้ (ตรงนี้สำคัญมาก ดีนะที่รอบคอบ ทำทุกอย่างถ่ายรูปเก็บไว้)
ปริ้นออกมา เพื่อจะไปที่สาขาพรุ่งนี้ โคตรร้อนใจ เงินตั้งเยอะอ่ะ ภาวนาว่า ขอให้ธนาคารอย่าเพิ่งโอนไปให้มัน ขอให้แค่ Keep ไว้เฉยๆ

วันที่ 4 เมษายน 60

รีบมาที่สาขาแต่เช้า เดินเรื่องทุกอย่าง พร้อมหลักฐาน ใบลงบันทึกประจำวัน สลิปที่มันโอนมา สลิปที่เราโอนไป และ SMS จากธนาคารว่ายอดเงินหายไป

เราก็แจ้งกับธนาคารนะว่า ทำไมมีสิทธิ์อะไรถึงมาดึงเงินจากบัญชีเราได้เลยอ่ะ โดยที่เจ้าของบัญชีไม่ยินยอม

ผมจะหาความปลอดภัยได้จากไหนล่ะคุณ แล้ว จดมายเนี่ยให้เวลา 3 วัน น้อยไปป่าว เบอร์โทรของผมก็มี ทำไมธนาคารไม่โทรมาสอบถามก่อนที่จะดึงเงินไป

เค้าก็รีบจัดการตรวจสอบให้โดยเร็ว พนักงานดีมากนะ ใจเย็นด้วย จากการตรวจสอบ ธนาคาร Hold ยอดไว้ 8,700 บาท ซึ่งมีจดหมายภายในมาที่ธนาคารให้อายัติไว้ เค้าจะดำเนินการปลดล็อคยอดเงินให้ทันที ผมนี่รีบปิดบัญชีเลย
บอกเค้า เราไม่มั่นใจในความปลอดภัยของบัญชีนี้อีกแล้ว

>> เรื่องพวกนี้มันไม่น่าเกิดได้เลยนะ <<

ถ้าสมมุติผมไม่ได้จดหมายล่ะ เงินที่ดึงไป 8,700 บาท จะไปไหน เข้าบัญชี ผญ.คนนั้นเลยมั้ย

ถ้าติดต่อผมไม่ได้ล่ะ ดึงไปโดยไม่บอกเจ้าของบัญชีไม่รู้เลยนะ ไม่มีแจ้ง Sms ด้วยว่า หักเงิน มีแต่สรุปยอดเงินที่แอบหักเงินไปแล้ว

อยากให้ทุกคนทำอะไรให้รอบคอบจริงๆนะ ถ้าไม่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ ไม่ถ่ายสลิปที่โอนคืนพร้อมชื่อ ผญ.คนนั้น ไว้ เราจะเอาหลักฐานอะไรไปบอกธนาคารว่าเราโอนคืนแล้ว

พ่อค้า แม่ค้า อ่านก่อน >> ถ้ามีลูกค้า สั่งของ 20,000 บาท แล้วคุณส่งของให้ลูกค้าเรียบร้อย แล้วอยู่ๆ ลูกค้าคนนั้น ไปแจ้งธนาคารว่า โอนเงินผิดล่ะ ธนาคารดึงเงินคุณไปโดยที่คุณไม่รู้เลยนะ คุณยังไม่ได้เซ็นต์ยินยอมอะไรทั้งงั้นเลยนะ จะทำยังไงล่ะ เหมือนเคสนี้มั้ย

#สุดท้าย ฝากเตือนเรื่องนี้ไว้ด้วยนะ

" ถ้ามีคนโอนเงินมาผิด แล้วโทรมาให้คุณโอนคืน ไม่ว่ามันจะได้เบอร์มายังไงก็ตาม คุณไม่ต้องโอนคืน ให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ก็พอ ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ธนาคารเอง บางครั้งการเป็นคนดี มันอาจจะทำให้เดือดร้อนตัวเอง เค้าโอนมาผิดเองให้เค้ารับผิดชอบไป ไม่ใช่เรื่องของเรา "

อ่านจบแล้ว ได้คำตอบรึยัง ว่า จะเลือกตอบข้อ 1 หรือ 2

<3 ขอบคุณทุกคนที่อ่านจบ ด้วยความเป็นห่วง birdkid <3

ปล.ไม่ขอบอกธนาคารนะ เพราะเราได้เงินคืนมาแล้ว แต่อยากจะลงไว้เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆนะ


comment post:  เราเคยเจอเหตุการณ์นี้ เหมือนกันเป๊ะๆ (ธ.ม่วง )
วันนึง มีผญ โทรมาบอกว่าโอนผิด 2หมื่นกว่า เราเข้าไปเช็ค มีจริงๆด้วย ไม่ใช่ยอดของลูกค้า เราเลยถามว่าทำไมโอนผิด เค้าบอกเค้ารีบไม่ได้ดู (ที่เค้ามีเบอเราเพราะเค้าบอกว่าเค้าเคยสั่งของกับเรา)
ผญคนนั้นถาม โอนคืนให้ได้ไหมต้องรีบใช้เงิน
เราตอบไปว่า คือพูดจริงๆนะคะ รู้สึกไม่สบายใจเหมือนกัน แต่ช่วงหลังมีข่าวแบบนี้บ่อย เอาเปนว่า เพื่อความสบายใจของทั้ง2ฝ่าย ขอติดต่อธนาคารก่อนนะคะ

ไม่ถึง5นาที ธนาคารโทรมา ถามเรื่องผญคนนั้นโอนผิด ทางธนาคารให้เลือกว่า จะโอนคืนเอง หรือ ให้ธนาคารจัดการดึงเงินออกไปให้ แล้วเค้าก็อธิบายอีกว่า ผญคนนั้นต้องใช้เอกสารหลายอย่างยืนยันการโอนผิด เช่นใบแจ้งความหรือลงบันทึกประจำวันนี่ละ ว่าถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้น ผญคนจะเปนคนรับผิดชอบทั้งหมด ประมานนี้ (จำไม่ค่อยได้)
เราเลยบอกว่างั้นรอให้ธนาคารจัดการคะ

ผ่านไป1วัน เงินเราก็โดนหักไปตามจำนวนที่เค้าโอนผิดมาคะ

ถามว่าทำไมเราไม่โอนคืน เพราะมันมีกรณีที่พบบ่อยมาก บางคนอาจไม่ทราบ จะเล่าให้ฟัง

มันมีมิจฉาชีพ ทำท่าเปิดร้านขายของ ทีนี้มิจฉาชีพก็มาสั่งของร้านเรา เราก็สรุปยอดให้ สมมุติว่ายอด 2500บาท
คราวนี้ พอมีเหยื่อ มาสั่งของจากร้านมิจฉาชีพ มันก็สรุปยอดให้เหยื่อไป สมมุติ 5500 บาท แล้วมันก้แจ้งเลขบช ของเราให้เหยื่อ พอเหยื่อโอน เงินก็จะเข้าบชเราใช่ไหมคะ ทีนี้มิจฉาชีพก็จะมาบอกเราว่า โอนแล้วนะ แต่โอนผิด ให้โอนคืนมาหน่อย ประมานนี้ บางคนโอนคืนไป มิจฉาชีพได้เงินที่เหลือตรงนั้น แล้วมันก็ไม่ส่งของให้เหยื่อ
เหยื่อก็จะมาตามเอากับเจ้าของบช คือ เรา ก็จะกลายเปนเรื่องซับซ้อนมาก😩
แม่ค้าบางคนโดนไปหลักหมื่นปลายๆก็มี น่ากลัวมากแบบนี้ เราถึงเซฟตัวเองไว้ก่อน และย้ำลูกค้าเสมอว่า ห้ามโอนเกินตามยอดที่แจ้ง

ไม่รู้อ่านเข้าใจกันไหมแหะๆ อธิบายไม่เก่งเท่าไรคะ

comment post:   แฟนโอนผิดค่ะ ยอดเงินสามหมื่นกว่า รีบแจ้งธนาคาร ธนาคารอายัติเงินนั่นไว้ในบัญชีปลายทาง คนปลายทางถอนไม่ได้ พยายามหาทางติดต่อปลายทางให้มาเซ็นเอกสารที่นาคารให้หน่อย หาข้อมูลเอง ชื่อ เบอโทร เพราะธนาคารไม่มีสิทธิโอนคืนให้เอง ทำได้แค่ล๊อกเงินไว้ ปลายทางไม่ยอมมาทำเรื่องให้ แจ้งตำรวจ ตำรวจคุยปลายสายให้ ยังไงเค้าก็ไม่ยอม ตำรวจบอกทำอะไรไม่ได้ ทุกวันนี้คาดว่าเงินก็ยังอยุ่ เค้าไม่มาทำเรื่องให้ เราก็ทำอะไรไม่ได้ เงินก็ล๊อคไว้เค้าถอนไม่ได้ ธนาคารก็ช่วยอะไรไม่ได้ มันเป็นการโอนข้ามธนาคาร

comment post: เราทำงานธนาคารแท้ๆ เรายังกลัวเรื่องแบบนี้เลย สงสัยเหมือนกัน แล้วถ้าพวกซื้อของออนไลน์ พอได้ของเสด ไปแจ้งธนาคารว่าโอนเงินผิด แล้วธนาคารจะตรวจสอบยังไงว่าโอนผิดจริงๆ ไม่ใช่จะตั้งใจจะโกง คือก่อนจะโอนควรตั้งสติก่อนมั้ย มันจะโอนผิดกันได้ง่ายๆหรอ

comment post:  สำคัญคือ
1.ผญ.คนนั้นรุ้เบอร์บัญชีและเบอร์โทรคถณได้ยังไง
2.ถ้าขึ้นชื่อผู้รับเงินผิดคน ผญ.คนนั้นกดยืนยันผุ้รับเงินได้ยังไง
------------------------------------
 ถ้าคุณโอนเงินผิดบัญชี เราควรทำอย่างไร
souirce:  http://www.naarn.com/6561/

หลายคนอาจเคยใช้บริการโอนเงินทั้งผ่านตู้เอทีเอ็ม Internet Banking หรือจะผ่านทาง Mobile Banking เเล้วมักมีข้อผิดพลาดโอนเงินกันไปผิดบัญชี ไม่ว่าจะเป็นเราที่ทำรายการผิดไปให้คนอื่น หรือจะเป็นคนอื่นที่โอนเงินให้เรา

ถ้าเราโอนเงินผิดไปให้คนอื่น
เป็นความผิดที่เกิดจากตัวเราเองนั่นก็คือ เราได้ทำการโอนเงินไปให้คนอื่น ที่ไม่ใช่บัญชีของคนที่จะรับเงินจากเราจริงๆ ซึ่งเกิดจากการคีย์ตัวเลขบัญชีสลับกันบ้าง กดผิดบ้าง ถ้าเป็นแบบนี้ไม่ต้องตกใจ

สิ่งที่ต้องทำ คือเก็บหลักฐานการโอนเงินต่างๆ ไว้ให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นสลิปการโอนเงินที่ออกมาจากตู้เอทีเอ็ม หรือจะเป็นหน้าจอการโอนเงินทาง Internet Banking และ Mobile Banking ต่อจากนั้นก็ต้องติดต่อไปที่ธนาคารของเราที่โอนเงินไปผิด เพื่อแจ้งปัญหาและสอบถามวิธีการขอคืนเงิน ซึ่งธนาคารแต่ละแห่งก็จะมีวิธีการปฏิบัติที่แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนมากที่จะแนะนำก็คือ ให้เรานำเอกสารการโอนเงินรายการที่ผิดบัญชีและสำเนาบัตรประชาชนไปแจ้งความที่สถานีตำรวจไว้ก่อน ต่อจากนั้นก็ให้นำหลักฐานการแจ้งความทั้งหมดไปติดต่อกับธนาคารอีกครั้ง

แต่สิ่งที่ธนาคารต่างๆ จะช่วยเราได้ก็คือ จะช่วยประสานงานไปยังเจ้าของบัญชีอีกฝั่งหนึ่งที่เราโอนเงินของเราไปให้แต่ผิดบัญชีเพื่อติดต่อขอเงินคืนให้ แต่เราต้องเข้าใจธนาคารอย่างหนึ่งว่า ธนาคารไม่มีสิทธิที่จะไปตัดเงินจากบัญชีของลูกค้าโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นเมื่อธนาคารช่วยติดต่อประสานงานให้กับเราไปยังเจ้าของบัญชีอีกฝั่งหนึ่งแล้ว แต่ถ้าเจ้าของบัญชีรายนั้นไม่ยินยอมที่จะโอนเงินคืนกลับให้เรา ก็ถือได้ว่าหมดขอบเขตหน้าที่ของธนาคารแล้ว

สิ่งที่เราต้องทำต่อไป คือ เราจะต้องไปฟ้องร้องเพื่อขอเงินคืนด้วยตัวเองจากเจ้าของบัญชีอีกฝั่งหนึ่งเอง เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะกดโอนเงินไปให้ใครเราจะต้องตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนกดทำรายการ เพราะธนาคารจะถือว่ารายการโอนเงินที่เกิดขึ้นนั้นเราเป็นคนทำรายการด้วยตัวเอง ธนาคารก็เลยไม่มีหน้าที่ที่จะต้องมาจ่ายชดเชยเงินคืนให้เราแต่อย่างใด

ถ้าคนอื่นโอนเงินผิดมาให้เรา
ถ้าเป็นกรณีแบบนี้ก็ไม่ต้องรีบร้อนเป็นคนดีโอนเงินคืนให้เขาทันที อย่างน้อยเราต้องสอบถามคนที่โทรมาก่อนว่า โทรมาจากธนาคารอะไร มีรายการผิดปกติอะไรเกิดขึ้น แล้วก็บอกปลายสายไปว่าขอตรวจสอบรายการกับธนาคารก่อนที่จะทำการโอนเงินกลับไปให้คนที่โทรมาหา และที่สำคัญที่เราจะต้องสังเกตอีกอย่างหนึ่ง คือ คนที่โทรมาจะต้องแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นจากการโอนเงิน มากกว่าการสอบถามข้อมูลส่วนตัวของเรา และแจ้งให้เราตรวจสอบรายการบัญชีของตัวเราก่อน ไม่ใช่มาบอกให้เราทำรายการโอนเงินคืนให้เพียงอย่างเดียว แล้วอย่าลืมถามชื่อและเบอร์โทรติดต่อกลับ ที่จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารเท่านั้น

หลังจากที่เราได้รับโทรศัพท์มาแจ้งว่ามีคนโอนเงินมาให้เราผิดบัญชีไปแล้วนั้น เราก็ต้องตรวจสอบบัญชีของเราก่อนว่ามีเงินโอนเข้ามาตามที่มีคนโทรมาแจ้งหรือเปล่า ซึ่งถ้าเรามี Internet Banking หรือ Mobile Banking เราก็สามารถเข้าไปตรวจสอบรายการได้เลยทันที แต่ถ้าบัญชีของเราไม่มี Internet Banking หรือ Mobile Banking เราก็สามารถตรวจสอบการโอนเงินเข้ามาได้โดยโทรกลับไปที่ Call Center หรือจะไปติดต่อที่สาขาของธนาคาร เพื่อดูรายการโอนเงินที่เข้ามาได้ ซึ่งถ้าหากเราตรวจสอบแล้วเป็นการโอนเงินผิดบัญชีจริงๆ และไม่ใช่เงินของเราจริงๆ เราก็ค่อยโอนเงินกลับไปให้เจ้าของบัญชี

ดังนั้นก่อนทำรายการโอนเงินต่างๆ จะต้องตรวจสอบความถูกต้องทั้งเลขที่บัญชี ชื่อบัญชี และจำนวนเงินให้ดีก่อนกดทำรายการ และถ้าหากมีการโอนเงินมาให้เราผิดก็ต้องกลับไปตรวจสอบก่อนว่ามีการโอนเงินมาผิดจริงๆ แล้วค่อยโอนเงินกลับคืนให้เจ้าของ
กสิกรแข็งขันเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ไทยจะเรืองอำนาจเพราะเป็นชาติกสิกรรม
ชีวิตกสิกร/กสิกรไทย
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล
ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน  

เป็นบทเพลงที่วงดนตรีสุนทราภรณ์แต่งขึ้นเพื่อสดุดีพี่น้องเกษตรกรไทยที่ผลิตธัญญาหารหล่อเลี้ยงผองชนชาวไทยและมวลมนุษยชาติในฐานะที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติ โดยไทยจะเรืองอำนาจเพราะไทยเป็นชาติกสิกรรม ซึ่งยามเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจก็เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าการส่งออกภาคเกษตรคือรายได้เดียวที่ค้ำจุนชาติบ้านเมืองในขณะนี้


(สร้อย)กสิกรแข็งขันเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ไทยจะเรืองอำนาจ เพราะไทยเป็นชาติกสิกรรม

หญิง) อันชีวิตของกสิกรนั้น ต่างยึดถือความขยันมั่นหนักหนา ทนทำงานอยู่ระหว่างกลางดินฟ้า ถึงแดดกล้าฝนพรำก็ทำไป

ซ้ำ (สร้อย)

ชาย)ความเป็นอยู่แสนง่ายสบาย นะดวงจิตรักสงบไว้ไม่มักใหญ่ มุ่งแต่งานเป็นชีวิตและจิตใจ มีนิสัยที่แผ่เผื่อเอื้ออารี

ซ้ำ (สร้อย)

พร้อม) กสิกรรมจึงประจักษ์เป็นหลักมั่นอาชีพสำคัญคู่ไทยวิไลศรี ไทยจะเข้มไทยจะแข็งแรงทวี
ก็ด้วยมีกสิกรรมประจำเทอญ

ซ้ำ (สร้อย)

แก้กรรม ศรัทธาที่มืดบอด
สุภชาติ สุวรรณสิงห์(เอ ตาทิพย์ )
อาจารย์เอตาทิพย์ทำพิธีล้างกรรม บาทาบำบัด เกจิอาจารย์สุดยอดวิชา เป่ายันต์จักรพรรดิ์ ลงนะหน้าทอง สักยันต์จักรพรรดิ์ สักยันต์นะหน้าทอง สักยันต์ปลดหนี้ แก้กรรม แก้คุณไสย์ สะเดาะเคราะห์ ต่ออายุ ดูดวงชะตา เจิมรถ ดูฮวงจุ้ย ตั้งศาลพระพรหม พระแม่ธรณี ท้าวเวสสุวัณณ์ ท้าวกุมภัณฑ์ พระภูมิเจ้าที่ และศาลอื่น ๆ 

คุณเป็นต้อมั้ย? วันนี้ทีวีดูเล็กขอนำเสนอ การรักษาต้อด้วยฝ่าตีนนนนน คุณไม่คิดมาก่อนใช่มั้ยว่าเราจะมาถึงจุดนี้กันได้? มันมาถึงแล้วล่ะ เพียงคุณแชร์ออกไปภายใน 5 นาที คุณจะได้รับส่วนลดในการรักษาทันที ไม่เห็นผลให้ใช้ฝ่าตีนเหยียบคืน แต่ไม่คืนตังค์นะ!!! 555555
โอยย...ตายๆๆ คนเหยียบยังใส่แว่นอยู่เลย ยังเชื่อกันอีกเรอะ พี่น้อง (หมอแล็บแพนด้า)

กรูว่าสังคมแม่งกำลังป่วยหวะ ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลตรงนี้หน่อยว่า ถูกผิดอะไรไหมกับการอ้างการรักษาด้วยการเอาตีนไปเหยียบหน้า คนเชื่อแม่งคงป่วยทางสมองอย่างหนักหละ คือเมิงว่าควรปล่อยไปแบบนี้ไหม ?

นี่ถ้าพ่อแม่พี่น้องมาเจอไอ้แว่นนี้รักษาพวกเมิงจะเห็นดีเห็นงามด้วยไหม กับการอ้างการรักษาด้วยวิธีแบบนี้
(B FuckGhost >> ดูหลายๆคลิปแล้วแม่งเจ็บปวดหัวใจ จริมๆ)


เชื่ออย่างไม่มีสติปัญญา ไม่อิงเหตุผลใดๆทั้งสิ้น ไม่ใช้สติและปัญญา ในการพิจารณา ไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน เรียกว่า "อธิโมกศรัทธา" หรือ เชื่อแบบหลงงมงาย

source: https://www.facebook.com/toolmorrow, www.thairath.co.th

จะเกิดอะไรขึ้น.. ถ้าเราทำตามกันโดยไม่รู้สึกผิด
What will happen if we follow each other blindly.

ทุกวันนี้สังคมไทยมีการทำทุจริตในด้านต่างๆมากมาย เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดแก่ตัวเอง โดยไม่สนใจรอบข้าง ว่าจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด ซึ่งผลที่ได้รับก็คือประเทศของเราเอง ต่างคนต่างโกง ต่างคนต่างไม่ยอมกัน แล้วประเทศเราจะอยู่อย่างไร


เฟซบุ๊กเพจทูมอโร่ (Toolmorrow) ซึ่งเป็นผู้จัดทำคลิป ได้เผยคลิปการตั้งกล้องทดสอบพฤติกรรมโกง ของคนไทยกลุ่มหนึ่ง โดยจัดฉากหน้าร้านอาหาร ด้วยการตั้งโต๊ะติดป้ายแจกขนมฟรีคนละ 1 ชิ้น และมีหน้าม้าคอยหยิบนำให้คนข้างหลังดู เพื่อจะพิสูจน์ว่าจริงๆ แล้วคนไทยมีนิสัยโกงทุจริตอยู่ในตัวหรือไม่ หรือจริงๆ แล้วเห็นคนอื่นโกง ก็เลยทำตามบ้าง จากการทดสอบแบบที่ 1 ทีมงานได้ให้หน้าม้าทดลองหยิบคนละ 1 ชิ้น ผู้คนส่วนใหญ่ที่เดินผ่านไปมาก็ทำการหยิบกันไปคนละหนึ่งชิ้นอย่างเป็นระเบียบ

จากนั้นทีมงานทูมอโร่ ได้ให้หน้าม้า ทำการทดลองแบบที่ 2 โดยให้หน้าม้าหยิบขนมเกิน 1 ชิ้น พบว่าผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาบางส่วนได้หยิบกันคนละ 2-3 ชิ้นตามไปด้วย แต่บางส่วนก็ยังปฏิบัติตามกฏที่วางไว้คือ 1 คนต่อ 1 ชิ้น

สุดท้ายทีมงานของทูมอโร่ ได้สรุปผลการทดลองพบว่า
จากการทดสอบด้วยแบบที่ 1 มีจำนวนคนโกงอยู่ที่ร้อยละ 10
เมื่อทดลองแบบที่ 2 ด้วยการให้หน้าม้าหยิบขนมเกิน 1 ชิ้นพบว่ามีผู้ที่ทำตามเป็นจำนวนถึงร้อยละ 60

สรุปเป็นนัยสำคัญได้ว่า คนส่วนใหญ่เมื่อเห็นคนอื่นโกง ก็มีแนวโน้มที่จะโกงตามมากขึ้น พร้อมชวนชาวเน็ตร่วมเสนอไอเดียเพื่อลดพฤติกรรมการโกงตามน้ำ

ทั้งนี้ในช่วงแรกของคลิปการทดสอบ ทีมงานทูมอโร่ ได้หยิบนำประเด็นเรื่องการทำผิดกฎจราจรบนท้องถนนมาเปรียบเทียบพฤติกรรม ‘โกงตามน้ำ’ ชี้ให้เห็นว่าเมื่อมีคนหนึ่งทำผิดซึ่งหน้า คนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้ ก็มีโอกาสสูงที่จะเลียนแบบพฤติกรรมดังกล่าว

โลกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงสูง - ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการแบงก์ชาติให้สัมภาษณ์พิเศษในวารสาร “การเงินธนาคาร” ฉบับเดือนสิงหาคมว่า สถานการณ์ของโลกวันนี้ นักเศรษฐศาสตร์แบงก์ชาติ เรียกว่า VUCA ซึ่งมาจากคำ 4 คำคือ V–Volatility มีความผันผวนสูงมาก U–Uncertainty มีความไม่แน่นอนจำนวนมาก C–Com-plexity มีความซับซ้อนมากขึ้น การทำแบบเดิมๆอาจไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่เคยเป็น เพราะมีความซับซ้อนมากขึ้น และ A–Ambiguity ความไม่ชัดเจนของผลลัพธ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้น ระหว่างทางจะมีทางสองแพร่งอยู่ตลอดเวลาที่จะนำไปสู่ Scenario ที่ต่างกัน ฟังแล้วก็มึนตึ้บนะครับ เพราะมันซับซ้อนจนยากที่จะแปลออกมาให้เข้าใจได้ง่าย

ผมฟังแล้วก็ขอสรุปตามความรู้สึกของผมเองก็คือ สถานการณ์โลกวันนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน ไม่ว่า ภาวะเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การเงิน การลงทุน ทุกอย่างล้วนตกอยู่ในสภาวะ ผันผวน มีความไม่แน่นอนสูง และ ซับซ้อนมากขึ้น จนอาจทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นไปอย่างที่เคยเป็น จนมีภาษาแปลกๆที่เรียกว่า New Normal หรือ ความปกติใหม่ ที่เป็น ความไม่ปกติเก่า เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

ดร.วิรไท ได้ยกตัวอย่างกรณี Brexit การลงประชามติให้อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ นายเดวิด คาเมรอน จัดให้มีการลงประชามติตามนโยบายที่หาเสียงไว้ในปี 2558 ซึ่งไม่ได้คาดคิดว่าผลการลงประชามติจะออกมาเป็น Brexit หรือการออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป

กรณี Brexit มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทั้งที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ ทำให้สถานการณ์พัฒนาไปไกลจากความตั้งใจเดิม ที่เพียงเพื่อสร้างเสถียรภาพให้รัฐบาลกลายเป็นการสร้างความผันผวนไปทั้งยุโรป และมีผลกระทบไปทั่วโลก

เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นแล้ว รัฐบาลอังกฤษและรัฐบาลประเทศอื่นๆก็มีมาตรการตอบสนองประกอบกับมีปัญหาการเมืองระหว่างประเทศมาเกี่ยวข้อง ทำให้สถานการณ์ในช่วง 2-3 ปีนี้ค่อนข้างจะมีพลวัตและความเปลี่ยนแปลงที่ยากจะคาดเดา อาจเกิดขึ้นได้หลาย Scenario

ดร.วิรไท ฟันธงว่า ซีนาริโอที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก มีอยู่ด้วยกัน 3 เรื่อง ผมขอยกตัวอย่างมาแค่เรื่องเดียว เพราะเนื้อที่ไม่พอ บางเรื่องก็กำลังเกิดขึ้นกับประเทศไทย เพียงแต่มันซับซ้อนและซ่อนลึกอยู่ในระบบ ทำให้รัฐบาลมองไม่เห็น ต้องแงะพื้นกระดานที่เป็น Normal ออกมา จึงจะเห็น New Normal ที่เป็นพื้นฐานใหม่ที่แท้จริงที่เป็นอยู่

เรื่อง 1 ใน 3 ที่ ดร.วิรไท แสดงความเป็นห่วงกังวลมาก และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นก็คือ ภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปจะมีความเปราะบางมากขึ้น จากเหตุการณ์ Brexit และสถานการณ์ดอกเบี้ยที่จะต่ำต่อไปอีกเป็นระยะเวลานาน จะมีผลกระทบต่อระบบการเงินในยุโรป ธนาคารพาณิชย์บางแห่งในยุโรป ก็ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายติดลบบ้างแล้ว ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร ธนาคารพาณิชย์ไม่กล้าทำธุรกรรมที่มีความเสี่ยง มีการชะลอการปล่อยสินเชื่อ แม้ว่าธนาคารกลางจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงไปอีก แต่ธนาคารพาณิชย์ก็ไม่ปล่อยสินเชื่อเพิ่ม เพราะกังวลในความเสี่ยงที่มีมากขึ้น

เรื่องดังกล่าว ยังส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของพันธบัตรระยะยาว ซึ่งในวันนี้เริ่มเห็นพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลในยุโรปมีอัตราผลตอบแทนติดลบ และส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของพันธบัตรทั่วโลก

ที่เล่ามานี้เป็นผลกระทบเพียงเรื่องเดียวนะครับ ยังไม่นับอีก 2 เรื่อง แต่แค่เรื่องเดียวก็ส่งผลกระทบไปถึงกระเป๋าเงินของคนทั่วโลกทุกครัวเรือน ไม่เว้นแม้แต่ “คนไทย” วันนี้ก็มี “ผลตอบแทนติดลบ” จากดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ที่ต่ำเตี้ยในธนาคาร เมื่อหักค่าเงินเฟ้อออกไปแล้วก็ไม่เหลืออะไรเลย

คอลัมน์ หมายเหตุประเทศไทย โดย“ลม เปลี่ยนทิศ”
Source: ไทยรัฐ

source: TheCoach.in.th
VUCA ย่อมาจาก Volatility (คาดเดายาก) Uncertainty (ไม่แน่นอน) Complexity (ซับซ้อน) และ Ambiguity (คลุมเครือ) เป็นศัพท์ทางการทหารในยุค ค.ศ. 1990 ต่อมาก็นำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในเชิงยุทธศาสตร์ภาวะผู้นำในหลากหลายองค์กร


องค์กรส่วนใหญ่พร้อมรับมือโลกของ VUCA เพียงใด

ไม่มากนัก

เพราะอะไร

เพราะองค์กรส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาด้วยลักษณะ
- โครงสร้างองค์กรที่ไม่มีพลวัตร (นิ่ง)
- การสื่อสารข้อมูลภายในที่มีแนวทางที่ชัดเจน
- กระบวนการที่เป็นขั้นเป็นตอนเพื่อรองรับงานที่ไหลเวียนในอัตราปกติ
- ความชัดเจนในบทบาทหน้าที่ของแต่ละคน
- ทักษะที่จำเป็นเพื่อตอบสนองภาวะตามที่กล่าว
- การตัดสินใจที่มีคุณภาพด้วยข้อมูลที่พอสมควรภายในกรอบเวลาที่สมเหตุสมผล

สิ่งเหล่านี้มีนัยสำคัญอะไรต่อผู้นำ
- การไหลเวียนของข้อมูลตอบสนองไม่ทันต่อสถานการณ์
- การจัดลำดับความสำคัญไม่ทันการ
- การตัดสินใจผิดมากเกินควร
- ขายไอเดียให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียยากขึ้น
- เป็นเบี้ยล่างคอยตั้งรับการเปลี่ยนแปลง
- ความสับสนของคนทำงาน

แล้วผู้นำจะนำพาทีมฝ่าโลกของ VUCA อย่างไรดี

ต้องเริ่มที่ทัศนคติที่ถูกต้องก่อน ด้วยการคิดว่าการทำผิดเป็นส่วนหนึ่งของงาน เราหลีกเลี่ยงการไม่ทำผิดไม่ได้ แต่เราทำให้มันน้อยลงได้ เมื่อเกิดความผิดพลาดมองหาทางแก้ไขแทนที่จะมองหาคนผิดเพื่อตำหนิ เรียนรู้ที่จะตั้งคำถามที่ถูกต้องกับบุคคลที่ถูกต้อง อะไรคือคำถามที่ถูกต้องในปัญหานี้ ใครบ้างคือคนที่เราควรจะถามบ้าง

เลือกรูปแบบภาวะผู้นำที่เหมาะกับสถานการณ์ เรามีทางเลือกว่าจะใช้แบบ ควบคุมและสั่งการ หรือแบบมีส่วนร่วมและสร้างแรงบันดาลใจ แต่ละวิธีหากใช้ให้เหมาะกับบริบทก็ดีทั้งคู่ ผู้นำต้องมีสติหมั่นสังเกตตนเองว่าเมื่อใดที่ตนเองไม่ถนัดในแบบไหนแต่จำเป็นต้องใช้วิธีการแบบนั้นและใช้ให้ได้ดีที่สุด


เมื่อความคิดมาถูกทางแล้ว เราลองมาดูเทคนิคอื่น ๆ เพิ่มเติมกัน

1. บริหารแบบเข้มข้น ในหนังสือ Leadership in the era of economic uncertainty by Ram Charan ผู้เขียนบอกว่า “ผู้นำต้องใช้วิธี การจัดการแบบเข้มข้น คือการลงมาคลุกคลีกับรายละเอียดของงานในระดับปฏิบัติการ และไม่ลืมที่จะดูโลกภายนอก ด้วยความรอบรู้และติดตามอยู่ตลอดเวลา คุณไม่อาจนั่งอยู่แต่ในห้องทำงานของคุณ อ่านรายงานแล้วสั่งการได้อีกต่อไป คุณจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างดีในเรื่องที่เกิดขึ้นภายนอกบริษัท เข้าใจผลกระทบที่มันมีต่อลูกค้าและงานของคุณ คุณจะต้องหมั่นดูแผนงานและความคืบหน้าของแผนเสมอจนเกือบจะเป็นกิจวัตรประจำวัน คุณไม่อาจละทิ้งการดูภาพรวม การมองอนาคต และการคิดระดับกลยุทธ์ไปได้เลย ผู้นำต้องเข้ามามีส่วนร่วมในงาน ออกมาปรากฏตัว และทำการสื่อสารทุกๆวัน” เมื่อเกาะติดงานแล้ว เรามาจัดลำดับความสำคัญกัน

2. จัดลำดับความสำคัญถี่ขึ้น ขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละอุตสาหกรรม หลักการก็คือต้องทำให้ถี่ขึ้นเพื่อให้การจัดลำดับงานนั้นสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไวตลอดเวลา แล้วก็รีบสื่อสารไปยังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ทันเวลา

3. อำนวยความสะดวกเรื่องการไหลเวียนของข้อมูล อย่าสื่อสาร “แบบปกติ” เพราะเราอยู่บน “ความปกติใหม่” (NewNormal) บนโลกของ VUCA ดังนั้นเราต้องคอยเตือนคนทำงานเสมอว่าต้องตระหนักในเรื่องของการไหลเวียนข้อมูลที่สำคัญ เมื่อใดก็ตามที่เราวางแผนงานเสร็จ ก่อนลงมือทำ ถาม “วิธีการไหลเวียนของข้อมูลของงานนี้ควรจะเป็นอย่างไร” “เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าข้อมูลไปถึงคนที่รับภายในเวลาอันสมควร” “อาจเกิดความผิดพลาดอะไรเกี่ยวกับการไหลเวียนของข้อมูลแผนงานนี้”

4. ตัดสินใจอย่างเหมาะสมด้วยการยอมรับความเสี่ยงที่พอรับได้ การตัดสินใจที่เหมาะสมในโลก VUCA หมายถึงการตัดสินใจที่มีข้อมูลจำกัดในเวลาจำกัด จากหนังสือ: Work smarts: What CEOs say you need to know to get ahead โดย Betty Liu เธอยกคำพูดของ Martin Sorrell - CEO of WPP plc, “การตัดสินใจที่แย่ในวันจันทร์ที่กว่าการตัดสินใจที่เยี่ยมในวันศุกร์”

และสำหรับการยอมรับความเสี่ยงที่พอรับได้คือการที่เราตระหนักว่ามันอาจจะพลาดได้ ทำให้เราคอยตั้งสติรีบลงมือแก้ไขได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดพลาดขึ้นมาจริง ๆ แทนที่จะเคยลอยชายแบบในอดีต

5. กระตุ้นทีมงานให้ตื่นตัวรับโลก VUCA ซึ่งน่าจะเป็นงานที่ท้าทายที่สุดของผู้นำ

เพราะอะไร

เพราะมนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่ผูกกับนิสัย เราทำในสิ่งที่เราเคยทำมาเพราะมันคุ้นเคย จนกระทั่งกลายเป็นอัตโนมัติไปแล้ว ในโลกของ VUCA หมายความว่าเราต้องละเลิกหลายอย่างที่เราคุ้นเคยไป

ผู้นำที่เก่ง ๆ เขาทำอย่างไร

พวกเขาสื่อสารสม่ำเสมอเรื่องโลกของ VUCA ไม่ใช่แค่ทำ Town Hall แล้วก็จบโดยหวังว่าคนจะจำได้ คนส่วนใหญ่อาจจะได้ยิน จะมีกี่คนเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการสื่อสารการเปลี่ยนแปลงต้องวางแผน และทำให้มากจนกระทั่งกลายเป็นคาถาในองค์กรกันไปเลย

ผู้นำจะสร้างแรงบันดาลใจกับคนที่เป็นกลุ่มไฟแรง เพื่อให้เขาสร้างความผูกพันในงานให้มากขึ้น วิธีการก็หลากหลาย ผู้นำต้องสังเกตและประยุกต์ใช้มัน

คนผลงานปานกลาง เราก็ต้องพยายามผลักดันให้เขาทุ่มเทให้มากขึ้น เพื่อให้เขาออกจากพื้นที่แห่งความสบาย

พวกผลงานต่ำ ก็ถึงเวลาที่ต้องกดดันกันบ้างเพื่อให้เขาพยายามให้มากขึ้นไปอีก

การนำองค์กรในโลกของ VUCA นั้นต้องใช้ทั้งความคิดใหม่และวิธีการใหม่ ทำให้เหมาะ แล้วเราจะฝ่าฟันไปด้วยกัน